รอสักครู่...

  • น.
พื้นที่โฆษณา

ข่าวขนส่ง

ข่าวขนส่ง - BEST Express เตรียมรับมือโปร 11.11 ขยาย HUB รับยอดพัสดุเพิ่ม พร้อมบริการ Cross Border ส่งพัสดุข้ามประเทศ ไทย-มาเลเซีย-จีน


ชอบข่าวนี้?
พื้นที่โฆษณา

ต้อนรับเทศกาลช้อปปิ้งออนไลน์สุดยิ่งใหญ่แห่งปี‘11.11’ที่ปีนี้ดูคึกคักเป็นพิเศษ เพราะคนไทยนิยมช้อปออนไลน์กันมากขึ้นเป็นNew Normalที่เกิดจากโควิด19โดยทุกแพลตฟอร์มอย่างShopeeและLAZADAขนโปรโมชั่น โค้ดส่วนลด โปรส่งฟรี มาเอาใจนักช้อป และเมื่อมียอดซื้อสินค้าจำนวนมาก แน่นอนว่ายอดพัสดุที่ต้องจัดส่งมีจำนวนมหาศาลBEST Express (เบสท์ เอ็กซ์เพรส)ผู้ให้บริการขนส่งพัสดุด่วนทั่วไทย ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท เบสท์ โลติสติกส์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ได้เผยแผนเตรียมพร้อมรับมือกับเทศกาล11.11กับ3แนวทางคือ เพิ่มความจุ (Capacity)ให้HUBหรือศูนย์ประจายสินค้า,ขยายAuto Sortingโดยนำเครื่องช่วยคัดแยกพัสดุอัตโนมัติมาใช้ในHUBและบริการการจัดการคลังสินค้าและบริการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดน (Cross border)เล็งขยายสาขาเพิ่มอีก800สาขาในสิ้นปีนี้ และขยายต่ออีก1,000สาขาในปี2565

นายเจสัน เชียน ผู้จัดการทั่วไปภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประธานกรรมการ บริษัท เบสท์ โลจิสติกส์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า“โปร11.11ในปีที่แล้ว ทางบริษัทฯ เจออุปสรรคในเรื่องของความจุ (Capacity)ไม่ค่อยเพียงพอ รวมทั้งเรื่องของคัดแยกพัสดุ ทำให้มีการส่งพัสดุให้ลูกค้าล่าช้า ในปีนี้เราจึงเพิ่มตัวAuto Sorting 15เครื่อง เพิ่มขยายความจุ และขยายคลังสินค้า เพื่อจัดการให้เร็วมากยิ่งขึ้น และปัญหาพนักงานที่ไม่เพียงพอ เพราะว่าช่วงเวลาปกติ กับช่วง11.11หรือโปรโมชั่นต่าง ๆ จะมีจำนวนพัสดุเพิ่มขึ้นมาก ดังนั้นปีนี้ในช่วงเวลาของแต่ละแคมเปญ เราได้จัดเตรียมOutsourceและจัดหาจำนวนรถต่าง ๆ เพื่อเข้ามาช่วยกระจายพัสดุให้เพียงพอ โดยในช่วงของโปร11.11ถือเป็นเทศกาลช้อปปิ้งออนไลน์ที่ใหญ่มาก มีพัสดุค่อนข้างเยอะ โดยทั้งโปร11.11และโปร12.12จะเป็นช่วงเวลาที่ทางBEST Expressจะได้รับพัสดุมากที่สุด เพราะฉะนั้น2ช่วงเวลานี้ เราทำยังไงก็ได้ให้"บริการให้ดี ส่งได้เร็ว"

ปัจจุบันHUBหรือศูนย์ประจายสินค้าของBEST Expressมีอยู่5แห่งทั่วประเทศและมี5 DCทั่วประเทศเช่นกัน โดยในกรุงเทพฯ มีHUBอยู่2แห่ง คือBKK HUBหรือฮับกรุงเทพฯRAMA 2 HUBหรือฮับพระรามสอง และอีก3 HUBได้แก่PHS HUBหรือฮับพิษณุโลกKKC HUBหรือฮับขอนแก่น และURT HUBหรือฮับสุราษฎร์ธานี ได้มีการเพิ่มความจุ คือ การเพิ่มขยายพื้นที่คลังสินค้าอีกประมาณ50,000ตารางเมตร และเพิ่มสาขาเพื่อรองรับลูกค้าอีก200สาขาเพิ่มจากปีที่แล้ว โดยเน้นความจุให้มากขึ้น เพื่อรองรับพัสดุที่เข้ามามากขึ้น

นอกจากนี้BEST Expressยังได้จับมือกับBG LINK(บริษัท บีจี ลิ้งค์ จำกัด)ผู้ให้บริการส่งพัสดุข้ามประเทศ ออกบริการ“BEST Cross Border (บริการส่งพัสดุด่วนข้ามประเทศ)”ที่พร้อมให้บริการจัดส่งพัสดุด่วนจากไทยไปมาเลเซีย ณ ศูนย์บริการสาขาBEST Expressทั่วไทย และบริการจัดส่งพัสดุด่วนจากไทยไปจีน ใช้ระยะเวลานำส่งพัสดุจากต้นทางไปสู่ปลายทางภายในระยะเวลา7 – 10วันทำการ โดยการบริการส่งพัสดุข้ามประเทศได้เพิ่มความสะดวกและรวดเร็วในการให้บริการมากขึ้น ด้วยบริการBEST2DBooking(เบสท์ ทู ดอร์ บุ๊คกิ้ง)หรือการเข้ารับพัสดุถึงหน้าบ้าน ฟรี!ไม่มีขั้นต่ำ และบริการBEST Tracking Alert (ติดตามสถานะพัสดุอัตโนมัติ)แบบReal Timeตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านทางLINE Official Accountเว็บไซต์และแอพพลิเคชันของBEST Express

นายเจสัน เชียน กล่าวถึงจุดเด่นการให้บริการของBEST Expressว่า“เมื่อเทียบกับคู่แข่ง เราถือเป็นธุรกิจแฟรนไชส์ 100 เปอร์เซ็นต์ ทำให้เจ้าของต้องคิดอยู่เสมอว่าทำอย่างไรให้ได้กำไรมากที่สุด เพราะBEST Expressเป็นธุรกิจจากจีนที่ทำระบบแฟรนไชส์จนประสบความสำเร็จ ดังนั้นเราจึงเอาระบบแฟรนไชส์เข้ามาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ใน 5 ประเทศที่เราขยายธุรกิจ คือ เวียดนาม,มาเลเซีย,สิงคโปร์,กัมพูชา และไทย โดยเรามีBEST Supply chainเป็นธุรกิจเครือข่ายของต่างประเทศมีอยู่ประมาณ15ประเทศทั่วโลก การที่เรามีเครือข่ายในหลายประเทศ ช่วยให้การทำCross Border Serviceของเราดีขึ้น และได้นำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาช่วยอย่างในประเทศไทยเรามี"BEST Tracking Alert"โดยลูกค้าผูกเบอร์ไว้กับระบบของเรา หรือผ่านLINE Official Accountเวลาลูกค้าไปส่งพัสดุ ระบบจะทำการแจ้งเตือนสถานะพัสดุอัตโนมัติแบบเรียลไทม์”

ในปี 2565BEST Expressจะเป็นธุรกิจขนส่งไม่ใช่แค่ในประเทศไทย แต่จะขยายไปยังต่างประเทศ สร้างเครือข่ายขนส่งให้เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้เชื่อมโยงกัน สามารถส่งของจากประเทศไทยไปต่างประเทศได้หมด รวมทั้งส่งของจากต่างประเทศมายังไทยด้วย โดยปีหน้ามีแผนที่จะขยายการเชื่อมต่อธุรกิจไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และจะมีการพัฒนาขยายเครือข่ายให้ครอบคลุมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอนาคต สุดท้ายนี้ทางBEST Expressมีบริการใหม่“BEST Big Parcel”เป็นการให้บริการส่งพัสดุขนาดใหญ่ได้สูงสุด 100 กิโลกรัม เพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่จับกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่ต้องการส่งพัสดุขนาดใหญ่ ซึ่งในปีหน้าเราจะพยายามให้การบริการของเรามีประสิทธิภาพ และรองรับความต้องการของลูกได้มากยิ่งขึ้น


"ข่าวประชาสัมพันธ์ ทันทุกกระแส" กับ @PRNewsThailand

เพิ่มเพื่อน
พื้นที่โฆษณา

แสดงความคิดเห็น

พื้นที่โฆษณา
คำค้นแนะนำ
Link
พื้นที่โฆษณา