งานWorld Expoเป็น 1 ใน 3 ของงานยิ่งใหญ่ระดับโลกที่กว่า190ประเทศจากทั่วทุกมุมโลกร่วมนำเสนอเอกลักษณ์และความภาคภูมิใจของชาติซึ่งในปีนี้“เวิลด์เอ็กซ์โป2020ดูไบ”จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2564–31 มีนาคม 2565 ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ภายใต้แนวคิดหลัก“Connecting Minds, Creating the Futureเชื่อมความคิด สร้างอนาคต”

ประเทศไทยให้ความสำคัญกับการเนรมิต “อาคารแสดงประเทศไทย” โดยจัดแสดงนิทรรศการภายใต้แนวคิด “การขับเคลื่อนสู่อนาคต” (Mobility for the future)รวมไปถึงองค์ประกอบอื่นๆ เพื่อให้ทั่วโลกได้เห็นถึงความงดงามและอัตลักษณ์ความเป็นไทย ซึ่งที่ผ่านมาทุกครั้งอาคารแสดงประเทศไทยได้รับคำชื่นชมและสร้างความภูมิใจให้กับประเทศได้เป็นอย่างดี และครั้งนี้ต้องการเปิดโอกาสให้เยาวชนไทยร่วมเป็นส่วนหนึ่งของอาสาสมัครในฐานะเจ้าหน้าที่ประจำอาคารแสดงประเทศไทยกับโครงการ“ไทยแลนด์ พาวิลเลี่ยน แอมบาสเดอร์”ซึ่งจัดโดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa)กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตลอดระยะเวลา6เดือน ณ เมืองดูไบสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ –20พฤษภาคม2564

สำหรับการเป็นอาสาสมัครโครงการฯ นี้ ถือเป็นโอกาสครั้งสำคัญในชีวิตนักศึกษา และเยาวชนไทย รวมถึงผู้ที่สนใจที่จะได้แสดงความสามารถบนเวทีระดับโลก และเป็นตัวแทนประเทศไทยในการนำเสนอเรื่องราวการพัฒนาเพื่อเป็นศูนย์กลางทางเทคโนโลยีดิจิทัลของไทยรวมถึงการฝึกฝนทักษะการใช้ภาษาอังกฤษหรือภาษาอารบิกในการปฎิบัติงานจริง โดยผู้ที่ได้รับการคัดเลือกจะได้รับค่าตอบแทนระหว่างการทำงานที่ผ่านมามีเยาวชนไทยเข้าไปเป็นอาสาสมัคร และเป็นส่วนหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์บนเวทีระดับโลก มาร่วมแชร์ประสบการณ์การทำงานในครั้งนี้

นายจุลนภ ศานติพงศ์ ไทยแลนด์ พาวิลเลี่ยน แอมบาสเดอร์World Expo 2010Shanghai Chinaกล่าวว่า“รู้สึกภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมกับความเป็นที่สุดของอาคารแสดงประเทศไทย และการจัดงาน “เวิลด์เอ็กซ์โป” จากเด็กธรรมดาๆ คนหนึ่ง แต่ได้มีโอกาสต้อนรับผู้เข้าชมงานจากทั่วโลก ได้เห็นนวัตกรรมใหม่ๆ ได้เห็นการแสดงวัฒนธรรมที่หลากหลาย ที่สำคัญได้เห็นการนำเสนอจุดเด่นของประเทศต่างๆ บนเวทีโลกแห่งนี้ ซึ่งตลอดการจัดงาน6เดือน มีผู้เข้าชมอาคารแสดงประเทศไทยกว่า 10 ล้านคน จากผู้เข้าชมกว่า 70 ล้านคน ซึ่งผู้เข้าชมงานจำนวนมากให้ความสนใจ และประทับใจในอาคารแสดงประเทศไทย จนกระทั่งอาคารแสดงประเทศไทยติดอันดับ1ใน5พาวิลเลี่ยนที่มีผู้เข้าชมมากที่สุด และมีคนต่อคิวเข้าชมงานจำนวนมากอีกด้วย”

ด้านนายรวิช อนุกูลกิจพานิช ไทยแลนด์ พาวิลเลี่ยน แอมบาสเดอร์Expo 2012 Yeosu, Koreaกล่าวว่า“ผมได้รับประสบการณ์มากมายจากการเข้าร่วมโครงการฯ ได้เห็นนิทรรศการและวัฒนธรรมของประเทศต่างๆ พร้อมทั้งซึมซับวิธีการทำงาน วิธีการปรับตัวในการอยู่ร่วมกันในสังคม อีกทั้งผมยังได้รับโอกาสในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้วิธีการทำงานในอาคารแสดงของประเทศอื่นๆ เพื่อนำมาปรับใช้กับตัวเอง ซึ่งการได้เป็นหนึ่งในไทยแลนด์แอมบาสเดอร์ในครั้งนั้นถือเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ชีวิตที่ดีที่สุดของผมครับ”

นางสาววรรณวิมล ทิพย์วงศ์ ไทยแลนด์ พาวิเลียน แอมบาสเดอร์ ในงานExpo 2017 Astana, Kazakhstanกล่าวปิดท้ายว่า“ดีใจที่ได้เคยเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของอาคารแสดงประเทศไทย เพราะงานเวิลด์เอ็กซ์โปถือเป็นงานที่รวบรวมผู้คนจากทั่วทุกมุมโลก ทำให้เราได้เรียนรู้วิธีการสื่อสาร วิธีการทำงาน การปรับตัวเข้ากับสังคม และถ่ายทอดความรู้แลกเปลี่ยนกัน มากไปกว่านั้น เรายังมีโอกาสได้เข้าถึงบุคลากรจากองค์กรที่มีชื่อเสียง และร่วมต้อนรับบุคคลสำคัญจากนานาประเทศอีกด้วย และสิ่งที่มีความหมายที่สุด นั่นก็คือการบันทึกความทรงจำเป็นเกียรติประวัติในฐานะตัวแทนคนไทยที่ครั้งหนึ่งได้ร่วมนำเสนอเอกลักษณ์และความภาคภูมิใจของชาติไทยบนเวทีโลกค่ะ”

สำหรับเยาวชน หรือผู้สนใจที่ต้องการคว้าประสบการณ์แบบนี้ เพียงคุณมีคุณสมบัติ อายุระหว่าง 18-30 ปี สัญชาติไทย สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างดี (หากสามารถสื่อสารภาษาอารบิกได้ จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ)สามารถสมัครออนไลน์ได้ที่https://www.expo2020dubaithailand.com/th/news/thailand-pavilion-ambassador/หรือติดตามข่าวสารเกี่ยวกับอาคารแสดงประเทศไทยในงาน“เวิลด์เอ็กซ์โป2020ดูไบ”ได้ที่เว็บไซต์และสื่อสังคมออนไลน์ทุกช่องทาง:EXPO2020DubaiThailandหรือสอบถามทางinfo@thailandexpo2020.comเปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้-20 พฤษภาคม 2564รีบสมัครด่วน!ใครจะเป็นว่าที่“ไทยแลนด์ แอมบาสเดอร์” ในปี2020คนต่อไป?