รอสักครู่...

  • น.
พื้นที่โฆษณา

ข่าวท่องเที่ยว

ข่าวท่องเที่ยว - Low Carbon Tourism วิถีการท่องเที่ยวแบบรักษ์โลก เทรนด์แห่งการเรียนรู้นอกห้องเรียนในยุคโควิค


ชอบข่าวนี้?
พื้นที่โฆษณา

Low Carbon Tourism วิถีการท่องเที่ยวแบบรักษ์โลกเทรนด์แห่งการเรียนรู้นอกห้องเรียนในยุคโควิค

เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าโควิด-19 เป็นปัญหาใหญ่ต่อระบบกลไกการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจของประเทศ ที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นและการตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวให้ลดน้อยลง แต่หากมองในมุมของสิ่งแวดล้อมแล้วนั้น ถือได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่ธรรมชาติได้กอบโกยความสุข และได้ฟื้นตัวเองอีกครั้งหลังจากถูกการท่องเที่ยวรบกวนมาเป็นระยะเวลายาวนาน แต่กระนั้นการท่องเที่ยวก็ยังเดินหน้าต่อไปอย่างเป็นพลวัต ทำให้นักท่องเที่ยวไม่สามารถหยุดนิ่งอยู่แต่ในบ้านได้เป็นเวลานานๆ ความถวิลหาการเดินทางจึงก่อตัวขึ้นอีกครั้งภายใต้ปัจจัยต่างๆ มากมาย ส่งผลให้พฤติกรรมการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวเปลี่ยนแปลง โดยการเริ่มมองหาสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ห่างไกลผู้คนแต่อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ สถานที่ที่ได้รับความสนุกสนานกับกิจกรรมการท่องเที่ยวแต่สัมผัสได้ถึงความปลอดภัย หรือสถานที่ที่ได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติ ละเมียดละไมกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรม แต่ได้มีโอกาสทำประโยชน์กลับคืนสู่สิ่งแวดล้อมและสังคม

Low Carbon Tourism หรือ การท่องเที่ยวแบบคาร์บอนต่ำ เป็นอีกหนึ่งรูปแบบการท่องเที่ยวที่ผสมผสานแนวคิดของการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ และการท่องเที่ยวแบบมีความรับผิดชอบเข้าไว้ด้วยกัน โดยมีใจความสำคัญที่ว่า ‘เที่ยวอย่างไรจึงจะปล่อยก๊าซคาร์บอนให้น้อยที่สุด หากพิจารณาแล้วเราจะพบว่าทุกย่างก้าวของการออกเดินทางท่องเที่ยวล้วนก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศ เสมือนว่ากิจกรรมการท่องเที่ยวก็เป็นส่วนหนึ่งที่เร่งให้เกิดผลกระทบที่ร้ายแรงต่อสิ่งแวดล้อมและโลกใบนี้ ดังนั้น จุดเริ่มต้นของการท่องเที่ยวแบบคาร์บอนต่ำจึงเกิดขึ้นเมื่อนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการการท่องเที่ยวเริ่มให้ความสำคัญกับการจัดการการท่องเที่ยวที่ช่วยลดปัญหาการเกิดภาวะโลกร้อน โดยพยายามออกแบบกิจกรรมการท่องเที่ยวที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด และในขณะเดียวกันก็ต้องส่งเสริมการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้รับประสบการณ์ที่แปลกใหม่ เกิดความตระหนักรู้และใส่ใจในสิ่งแวดล้อมได้ไปพร้อมๆ กัน

จากเทรนด์การท่องเที่ยวกลายเป็นสิ่งที่จับต้องได้ โดยอาจารย์พรทิพย์ บุญเที่ยงธรรม ผู้สอนรายวิชาการพัฒนาทรัพยากรการท่องเที่ยว สาขาการท่องเที่ยวและธุรกิจอีเวนต์ คณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ได้หยิบยกชุมชนท่องเที่ยวบ้านถ้ำเสือ อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ให้เป็นจุดหมายปลายทางในการศึกษานอกสถานที่สำหรับนักศึกษาในภาคเรียนนี้ โดยมีโจทย์สำคัญคือ “ทำอย่างไรที่จะทำให้นักศึกษาได้รับประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบรักษ์โลกอย่างแท้จริง และปลอดภัยจากโควิด” ดังนั้น การท่องเที่ยวแบบคาร์บอนต่ำของชุมชนบ้านถ้ำเสือจึงเป็นสถานที่ที่ถูกเลือก เพราะมีความน่าสนใจทั้งในด้านแนวคิดของการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และในมุมของการบริหารจัดการตัวเองภายใต้สถานการณ์โควิด-19 โดยชุมชนมีการปรับตัวเองเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวแบบเป็นกลุ่มหรือเป็นหมู่คณะได้อย่างปลอดภัยและมีมาตรฐาน

ปัจจุบันบ้านถ้ำเสือเป็นชุมชนที่ได้รับการยกระดับและเพิ่มมูลค่าให้เป็นชุมชนต้นแบบวัฒนธรรมการท่องเที่ยวแห่งแรกของไทย ซึ่งมีรูปแบบการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติพร้อมๆ กับการพัฒนาตนเองให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มุ่งเน้นให้คนในชุมชนได้มีโอกาสกำหนดทิศทางการพัฒนาชุมชนตามสภาพปัญหาของพื้นที่ และความต้องการของชุมชนโดยแท้จริง

นอกจากนี้ คนในชุมชนยังร่วมกันกำหนดแนวคิดของการพัฒนาและการอนุรักษ์พื้นที่ป่า สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรมชุมชน และพยายามขับเคลื่อนตนเองสู่การเป็นสังคมปลอดคาร์บอน (Zero Carbon) ผ่านกระบวนการออกแบบกิจกรรมการท่องเที่ยวที่ต้อง “ใช้สมองคิด ใจดู และสองมือทำ” พร้อมที่จะเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวเข้ามามีส่วนร่วมได้อย่างมั่นใจ โดยเริ่มต้นด้วยการดับเครื่องยนต์แล้วเดินเท้าเข้าสู่บ้านถ้ำเสือ พร้อมเปิดประสาทการมองเห็นธรรมชาติที่โอบล้อมด้วยแมกไม้ สัมผัสอากาศที่เย็นสบาย และรับฟังเสียงจักจั่นที่ดังซึงแซ่ตลอดเส้นทาง ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดทางธรรมชาติที่แสดงให้เห็นว่าเรากำลังเข้าใกล้แหล่งธรรมชาติอย่างแท้จริง และสิ่งแรกที่นักท่องเที่ยวจะได้ลิ้มลองคือ น้ำดอกอัญชันมะนาวที่เสิร์ฟมาในแก้วน้ำที่มีเอกลักษณ์ เพราะถูกตกแต่งโดยวัสดุที่หาได้จากท้องถิ่น ที่สำคัญคือมั่นใจได้ 100% ว่าปลอดสารพิษ เพราะชาวบ้านปลูกกันเองแบบอินทรีย์ ดังนั้น นักท่องเที่ยวที่ได้มาจะได้สัมผัสและดื่มด่ำความสดชื่นท่ามกลางวิวพาโนรามาของแม่น้ำเพชรบุรีที่ใสสะอาดแบบไม่น่าเชื่อ ก่อนที่ประธานธนาคารต้นไม้จะมาบรรยายให้ความรู้ถึงที่มาที่ไปของบ้านถ้ำเสือและนำเข้าสู่กิจกรรมสร้างสรรค์แบบคาร์บอนต่ำที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้มีส่วนร่วม อาทิ

– การปั้นลูกกระสุนเมล็ดพันธุ์ กุศโลบายเชิงวิถีตามบริบทของพื้นที่ในการปลูกป่าชุมชน โดยการยิงเป็นกระสุนเมล็ดพันธุ์เข้าไปในป่าแล้วปล่อยให้ธรรมชาติฟูมฟักตัวเองจนกลายเป็นผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์

– การทำไข่เค็มสมุนไพรใบเตย และทองม้วนน้ำตาลโตนด ที่หาวัตถุดิบสดใหม่ได้จากในพื้นที่ ทั้งที่เพาะปลูกกันเองแบบปลอดสารพิษและวัตถุดิบจากชุมชนในพื้นที่ใกล้เคียง

– การทำอาหารท้องถิ่น ที่มีชื่อเก๋ไก๋ว่า “ยำถ้ำเสือ” หรือยำผักกูด ซึ่งเป็นผักท้องถิ่นขึ้นชื่อที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพราะมีดีกรีเป็นผักที่เติบโตริมฝั่งแม่น้ำเพชรบุรีที่ใสสะอาด และยังคงความหวานและความกรุบกรอบได้แบบไม่เหมือนใคร อีกทั้ง ชุมชนยังให้นักท่องเที่ยวได้ลองลงมือทำยำผักกูดด้วยตัวเอง โดยใช้ถ่านไม้ปลอดสารพิษเป็นเชื้อเพลิง โดยถ่านไม้ของที่นี่พิเศษกว่าที่ไหนๆ เพราะเป็นถ่านที่ผ่านการเผาไหม้ให้บริสุทธิ์แบบอิวาเตะจึงไม่ก่อให้เกิดมะเร็ง

ปิดท้ายด้วยชุดอาหารแบบปิ่นโตที่ชุมชนจัดแยกมาเป็นชุดๆ แบบของใครของมัน ซึ่งไม่ใช่แค่แนวคิดของการออกแบบให้มีอัตลักษณ์เท่านั้น แต่ยังหมายถึงการแทรกความรู้เรื่องการควบคุมปริมาณอาหารให้พอดีกับคนทานและการจัดการอาหารไม่ให้เหลือทิ้งเป็นของเสีย (Food Waste Management) รวมทั้ง ยังปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดในพื้นที่อีกด้วย เห็นได้ชัดว่านี่คือการแก้โจทย์ที่ผ่านกระบวนการคิดอย่างมีชั้นเชิงโดยคนในชุมชน ในฐานะผู้ประกอบการการท่องเที่ยวที่มีวิถีรักษ์โลกที่สามารถทำให้สิ่งที่จับต้องได้ยาก กลายมาเป็นสิ่งที่จับต้องได้ง่าย โดยการออกแบบชุดการเรียนรู้ผ่านกิจกรรมการท่องเที่ยวแบบคาร์บอนต่ำที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี

เช่นเดียวกับการออกแบบการเรียนการสอนที่ผู้สอนต้องมีบทบาทสำคัญในการสะท้อนภาพที่ชัดเจนเรื่องการท่องเที่ยวแบบรักษ์โลกให้แก่นักศึกษา ผู้ซึ่งจะเป็นนักท่องเที่ยวและหรือผู้ประกอบการการท่องเที่ยวที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมได้ในอนาคต ผู้สอนต้องมีการบริหารจัดการการเรียนรู้อย่างใส่ใจตั้งแต่จุดเริ่มต้น ซึ่งมิใช่เพียงการเชื่อมโยงเนื้อหาให้สอดคล้องตามหลักสูตรเท่านั้น แต่จะต้องเป็นผู้วางแผนการเดินทาง คัดเลือกสถานที่เพื่อการศึกษาเรียนรู้ เลือกที่จะสนับสนุนที่พักแรม ร้านอาหาร หรือธุรกิจการท่องเที่ยวที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้ง เลือกทำกิจกรรมการท่องเที่ยวที่ให้ความสำคัญต่อการอนุรักษ์ทรัพยากรสิ่งแวดล้อมให้แทรกซึมเข้ามาอยู่ในกระบวนการศึกษาและเรียนรู้ เพราะนี่คือ “วิถีการท่องเที่ยวแบบรักษ์โลก เทรนด์การท่องเที่ยวใหม่ที่ต้องออกแบบ และออกมาเรียนรู้นอกห้องเรียนด้วยตนเอง”


"ข่าวประชาสัมพันธ์ ทันทุกกระแส" กับ @PRNewsThailand

เพิ่มเพื่อน
พื้นที่โฆษณา

แสดงความคิดเห็น

พื้นที่โฆษณา
คำค้นแนะนำ
Link

ข่าวประชาสัมพันธ์

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์

รับทำเว็บไซต์

รับทำเว็บไซต์โรงแรม

เว็บเซลเพจ

เว็บเซลเพจโรงแรม

โรงแรมนครศรีธรรมราช

นครศรีธรรมราช

รวมโรงแรมนครศรีธรรมราช

ผู้หญิง

เว็บไซต์ผู้หญิง

โปรโมชั่น

ความงาม

แฟชั่น

สุขภาพ

ไลฟ์สไตล์

สลากกินแบ่งรัฐบาล

ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล

หวย

ตรวจหวย

ลอตเตอรี่

เรียงเบอร์

รวมข่าวประชาสัมพันธ์

วงล้อนำโชค

สุ่มเลขนำโชค

ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์

ท้าวเวสสุวรรณ

หวยงวดนี้

เลขเด่นนำโชค

พระพิฆเนศ

นิวส์ไวร์

newswire

ไทยนิวส์ไวร์

thainewswire

จองตั๋วรถทัวร์

จองตั๋วรถทัวร์ออนไลน์

รีสอร์ทตราด

ตราดรีสอร์ท

โรงแรมตราด

Resort Trat

Trat Resort

ดูดวงไพ่ทาโรต์

ดูดวงไพ่ยิปซี

ดูดวงฟรี

ดูดวงออนไลน์

ดูดวงทั่วไป

ดูดวงการงาน

ดูดวงการเงิน

ดูดวงความรัก

ดูดวงสุขภาพ

ดูดวงการศึกษา

พื้นที่โฆษณา