ขอแต่งงานและฉลองช่วงเวลาสุดแสนประทับใจบนอาคารที่โรแมนติกที่สุดในโลก

ตึกเอ็มไพร์สเตทขอนำเสนอ "Happily Ever Empire" แพคเกจขอแต่งงานสุดตราตรึงใจที่เปิดโอกาสให้คู่รักได้สัมผัสประสบการณ์ระดับวีไอพีบนหอชมวิวอันโด่งดังของตึกเอ็มไพร์สเตท โดยคู่รักที่ถือบัตรสามารถขอแต่งงานบริเวณมุมที่จัดเตรียมไว้เป็นพิเศษบนหอชมวิวชั้น 86 และเปิดแชมเปญฉลองช่วงเวลาสุดแสนประทับใจไม่รู้ลืม

แพคเกจพิเศษราคา 1,000 ดอลลาร์ต่อคู่ประกอบด้วยทัวร์ตึกเอ็มไพร์สเตทแบบส่วนตัวเพื่อรับทราบประวัติของตึกและเรื่องราวความรักสุดคลาสสิกที่เกิดขึ้นที่นี่ หลังจากขอแต่งงานกันเรียบร้อยบนหอชมวิวชั้น 86 อันโด่งดัง คู่รักจะได้รับเชิญให้ขึ้นไปยังหอชมวิวชั้น 102 ที่มีหน้าต่างเต็มบานสูงจากพื้นจรดเพดาน เพื่อถ่ายภาพโดยมีวิว 360 องศาสุดตื่นตาตื่นใจเป็นฉากหลัง

"ไม่มีสถานที่ใดที่เหมาะกับการเฉลิมฉลองให้กับความรักยิ่งไปกว่าอาคารที่โรแมนติกที่สุดในโลก" ฌอง-อีฟ กาซี ประธานของหอชมวิวตึกเอ็มไพร์สเตท กล่าว "มีเรื่องราวความรักมากมายเกิดขึ้นบนตึกเอ็มไพร์สเตท และเรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้นำเสนอประสบการณ์การขอแต่งงานสุดแสนโรแมนติกและเอ็กซ์คลูซีฟให้แก่คู่รักจากทั่วโลก"

หอชมวิวตึกเอ็มไพร์สเตทเพิ่งผ่านการยกเครื่องครั้งใหญ่เมื่อไม่นานมานี้ ทั้งในส่วนของประตูทางเข้าสำหรับผู้มาเยือนหอชมวิวโดยเฉพาะ พิพิธภัณฑ์ดิจิทัลและแบบสัมผัสบนพื้นที่ 10,000 ตารางฟุต ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวตั้งแต่การคิดสร้างตึกจนถึงสถานะของตึกในปัจจุบันในวัฒนธรรมป๊อปคัลเจอร์ และการปรับโฉมหอชมวิวชั้น 102 นอกจากนั้นยังมีการปรับปรุงคุณภาพสภาพแวดล้อมในอาคาร (IEQ) เช่น ระบบควบคุมคุณภาพอากาศในอาคารแบบ bi-polar ionization, ระบบกรองอากาศระดับ MERV 13 และการเพิ่มคุณภาพการระบายอากาศ ส่งผลให้ตึกเอ็มไพร์สเตทเป็นอาคารแห่งแรกในอเมริกาที่ได้รับการรับรองมาตรฐานWELL Health-Safety Rating

ผู้ที่มีอายุ 21 ปีขึ้นไปสามารถซื้อแพคเกจขอแต่งงานได้ที่https://www.esbnyc.com/buy-tickets/happily-ever-empire

แพคเกจ "Happily Ever Empire" ต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมง โดยจำกัดจำนวนในแต่ละวัน ทั้งนี้ ช่างภาพ ครอบครัว และเพื่อนของคู่รัก ต้องซื้อบัตร Express แยกต่างหากที่https://www.esbnyc.com/buy-tickets/express-pass-86th-102nd-floors

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตึกเอ็มไพร์สเตทและหอชมวิวได้ที่www.esbnyc.com

เกี่ยวกับตึกเอ็มไพร์สเตท

ตึกเอ็มไพร์สเตทซึ่งเป็น "อาคารที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก" ของบริษัท เอ็มไพร์ สเตท เรียลตี้ ทรัสต์(ESRT: NYSE) มีความสูง 1,454 ฟุต (จากฐานถึงเสาอากาศ) เหนือย่านมิดทาวน์แมนฮัตตัน การปรับโฉมหอชมวิวด้วยงบประมาณ 165 ล้านดอลลาร์ได้สร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้มาเยือน ด้วยประตูทางเข้าเฉพาะ พิพิธภัณฑ์อินเทอร์แอคทีฟและแกลเลอรี 9 แห่ง รวมถึงหอชมวิวชั้น 102 ที่ปรับโฉมใหม่ด้วยกระจกเต็มบานจากพื้นถึงเพดาน ขณะที่หอชมวิวชั้น 86 ซึ่งเป็นหอชมวิวแบบเปิดโล่ง 360 องศาเพียงแห่งเดียวที่สามารถชมวิวมหานครนิวยอร์กได้อย่างเต็มตา ก็มอบประสบการณ์ใหม่ให้แก่ผู้มาเยือนด้วยการนำเสนอประวัติศาสตร์อันโดดเด่นของอาคารไปจนถึงสถานะในปัจจุบันในวัฒนธรรมป๊อปคัลเจอร์ ทั้งนี้ ปี 2564 เป็นวาระครบรอบ 90 ปีของตึกเอ็มไพร์สเตท ซึ่งเปิดให้บริการครั้งแรกในวันที่ 1 พฤษภาคม 2474 ตึกเอ็มไพร์สเตทได้รับการจัดอันดับให้เป็น "อาคารยอดนิยมของสหรัฐอเมริกา" จากการสำรวจของสถาบันสถาปนิกแห่งอเมริกา และได้รับการจัดอันดับให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของโลกจากการสำรวจของ Uber นอกจากนั้นยังครองอันดับ 1 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของมหานครนิวยอร์กจาก Lonely Planet โดยให้การต้อนรับผู้มาเยือนกว่า 4 ล้านคนจากทั่วโลกทุกปี

นับตั้งแต่ปี 2554 ตึกเอ็มไพร์สเตทใช้ไฟฟ้าพลังงานลมเต็มรูปแบบ และมีผู้เช่าสำนักงานรายใหญ่มากมาย เช่น LinkedIn, Shutterstock และ Global Brands Group นอกจากนั้นยังมีร้านดังอย่าง STATE Grill and Bar, Tacombi และ Starbucks สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมและซื้อบัตรขึ้นหอชมวิวได้ที่esbnyc.comหรือติดตามข่าวสารได้ที่Facebook,?Twitter,?Instagram,?Weibo,?YouTubeและ?TikTok

เกี่ยวกับเอ็มไพร์ สเตท เรียลตี้ ทรัสต์

เอ็มไพร์ สเตท เรียลตี้ ทรัสต์ (NYSE: ESRT) ครอบครอง บริหารจัดการ ดำเนินงาน เข้าซื้อ และรีโพสิชั่นอาคารสำนักงานและพื้นที่ค้าปลีกบนเกาะแมนฮัตตันและมหานครนิวยอร์ก ซึ่งรวมถึงตึกเอ็มไพร์สเตท "อาคารที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก" ทั้งนี้ นับจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564 บริษัทมีสำนักงานและพื้นที่ค้าปลีกให้เช่ารวม 10.1 ล้านตารางฟุต ซึ่งประกอบด้วยพื้นที่ให้เช่า 9.4 ล้านตารางฟุตในอาคารสำนักงาน 14 แห่ง แบ่งเป็นบนเกาะแมนฮัตตัน 9 แห่ง ในเขตแฟร์ฟิลด์ รัฐคอนเนคทิคัต 3 แห่ง และในเขตเวสต์เชสเตอร์ รัฐนิวยอร์กอีก 2 แห่ง รวมถึงพื้นที่ค้าปลีกให้เช่าอีกประมาณ 700,000 ตารางฟุต

เอ็มไพร์ สเตท เรียลตี้ ทรัสต์ เป็นผู้นำด้านการประหยัดพลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน โดย 76% ของสินทรัพย์ทั้งหมดได้รับการรับรองENERGY STARและ 100% มีการใช้ไฟฟ้าพลังงานลม นอกจากนี้ ESRT ยังเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์รายแรกในอเมริกาที่ได้รับการรับรองมาตรฐานWELL Health-Safety Ratingด้านสุขภาพและความปลอดภัย อีกทั้งยังได้รับการประเมินในระดับ 5 ดาว และ Green Star ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของมาตรฐานGRESBจากประสิทธิภาพความยั่งยืนด้านอสังหาริมทรัพย์ และผ่านการรับรองFitwelChampion สำหรับอาคารที่มีประสิทธิภาพสูงและดีต่อสุขภาพ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่esrtreit.comหรือติดตามFacebook,?Instagram,?Twitter? และ ?LinkedIn

หมวด: หอชมวิว

รูปภาพ -https://mma.prnewswire.com/media/1663338/Happily_Ever_Empire_Engagement_Package.jpg