ธุรกิจเมกะเทรนด์มาแรงในปี2023ที่เติบโตไม่หยุด คือ ธุรกิจขนส่งพัสดุด่วนที่เชื่อมโยงระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อขายสินค้าในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ โดยขยายตัวแบบก้าวกระโดดอย่างเห็นได้ชัดในรูปแบบC2CและB2Cและขยายตัวชัดเจนที่สุด คือB2Bซึ่งเป็นการเชื่อมโยงตลาดเครือข่ายทั่วประเทศขนส่งพัสดุแบบEconomies of scale (EOS)เพื่อลดต้นทุนค่าขนส่งเพิ่มสัดส่วนกำไรให้กับธุรกิจตรงสู่ลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ การลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์ขนส่งพัสดุด่วนBEST Express (เบสท์ เอ็กซ์เพรส) ถือเป็นโอกาสให้นักลงทุนเข้ามาสร้างผลกำไรและเป็นเจ้าของธุรกิจขนส่งพัสดุด่วน ประเภทแฟรนไชส์หลัก (FirstFranchise)ที่มีอิสระในการบริหารพื้นที่ 100% อยู่ภายใต้การดูแลของ บริษัท เบสท์ โลจิสติกส์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด จึงเป็นโอกาสที่ดีในการลงมาลุยตลาดโลจิสติกส์เพื่อทำกำไรที่มาพร้อมโอกาสด้านการขยายธุรกิจเครือข่ายโลจิสติกส์และซัพพลายเชนทั้งในไทยและต่างประเทศ

คุณวรพงษ์ สารพันธุ์ ผู้บริหารแฟรนไชส์BEST Expressสาขาพานทอง นิคมอมตะซิตี้ชลบุรี จังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่าก่อนหน้านี้เคยเป็นพนักงานบริษัทเอกชนในโรงงานอุตสาหกรรมของต่างชาติ ได้มองหาธุรกิจมารองรับก่อนเกษียณ คือ ธุรกิจขนส่งพัสดุด่วนที่ได้ศึกษาข้อมูลมากว่า2ปี จนได้พบเพจเฟซบุ๊คของBEST ExpressThailandและช่องทางอื่น ๆ ของเบสท์ เกี่ยวกับการแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์ จึงได้ศึกษาข้อมูลและเข้าไปดูโปรไฟล์ของBESTInc.บริษัทแม่ของBEST Expressประเทศไทย ที่มีการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ค(NYSE: BEST)ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้มีความเชื่อมั่นว่าเป็นองค์กรที่มีความน่าเชื่อถือและโปร่งใส และที่สำคัญเป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่มั่นคง เพราะมีMarket Capacityขนาดใหญ่จุดเด่นของBEST Expressผมมองว่าอยู่ในช่วงรอยต่อระหว่างเอ็กซ์เพรสของชิ้นเล็กและขนส่งทั่วไปที่ชิ้นใหญ่ ซึ่งBEST Expressสามารถไปได้ทั้งเอ็กซ์เพรส ชิ้นเล็กและชิ้นใหญ่ ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบของแบรนด์ที่เจ้าอื่นยังไม่มีตัวเล่นนี้ในปัจจุบัน ผมจึงได้ตัดสินใจร่วมลงทุนกับทางBEST Expressในทันที

สำหรับด้านการบริหารจัดการบุคลากรภายในสาขา ผมจะให้ความสำคัญกับบุคลากรทุกคน สร้างคนให้มีความเข้มแข็ง เพราะเมื่อคนเข้มแข็ง ก็จะสร้างทีมงานที่มีคุณภาพและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในทีมคูเรียร์เราต้องสื่อสารให้เขาเข้าใจว่านโยบายคืออะไร กลยุทธ์คืออะไร ถ้าส่งงานได้สำเร็จจะมีอะไรตอบแทนบ้าง ส่วนทีมซัพพอร์ตหลังบ้านจะต้องช่วยตามประสานงาน เพื่อเพิ่ม%ในPOD(Proof on Delivery) ให้สำเร็จไปอีกขั้น เป็นส่วนประกอบที่ต้องทำงานร่วมกันระหว่างทีมคูเรียร์และทีมหลังบ้านเป็นทีมเวิร์กช่วยกันทำงาน ซึ่งผลลัพธ์ทำให้PODของเรามียอดสูงในแต่ละเดือน

ส่วนในด้านการบริหารจัดการลูกค้า ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มโรงงานและพื้นที่เกษตรกรประกอบอาชีพเกี่ยวกับบ่อปลา ทำฟาร์ม และธุรกิจส่วนตัว จึงต้องมีวิธีจัดการให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าแต่ละกลุ่ม เราให้ความสำคัญกับลูกค้าทุกคนไม่ว่าจะชิ้นเล็ก ชิ้นใหญ่ ส่งมาก ส่งน้อย หากลูกค้ามีเข้ามาใช้บริการ เราจะแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างจากเจ้าอื่น เช่น สามารถติดตามสถานะงานที่ส่งได้ แม้กระทั่งตอนนี้อยู่บนรถแล้ว ถึงปลายทางแล้ว กำลังนำส่ง เหลือระยะทางอีกกี่นาที กี่กิโล ซึ่งเจ้าอื่นไม่สามารถติดต่อได้ลึกขนาดนี้ ลูกค้าจึงประทับใจและเชื่อมั่นในแบรนด์ ทำให้ลูกค้าบอกต่อ และเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง

“สำหรับธุรกิจเอ็กซ์เพรสในประเทศไทย ผมมองว่าเป็นธุรกิจในเมกะเทรนด์ คือ เป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ในอนาคตตลาดสินค้าออนไลน์จะต้องเติบโตขึ้น โซเชียลมีเดียและการสื่อสารจะขยายตัวมากขึ้น คนจะออกจากบ้านน้อยลงและจะมีการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น ทำให้ธุรกิจเอ็กซ์เพรสจะโตขึ้นตามเทรนด์ เพราะการขนส่งสำคัญมาก การขายสินค้าออนไลน์เป็นตัวเชื่อมระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อ ถ้ามีแต่ผู้ขายและผู้ซื้อไม่มีขนส่งส่งสินค้า การซื้อขายสินค้าก็จะไม่สำเร็จ เพราะฉะนั้นผมมองว่าธุรกิจเอ็กซ์เพรสในประเทศไทยจะเติบโตขึ้นต่อเนื่อง เป็นเส้นกราฟแนวตั้งแน่นอน”คุณวรพงษ์ กล่าวปิดท้าย

รับชมวิดีโอสัมภาษณ์แฟรนไชส์BEST Expressสาขาพานทอง นิคมอมตะซิตี้ชลบุรี จังหวัดชลบุรี เพิ่มเติมได้ที่ลิงก์นี้http://bit.ly/3Lin8bd

สำหรับนักลงทุนหรือผู้ประกอบการที่สนใจลงทุนเปิดธุรกิจแฟรนไชส์ขนส่งพัสดุด่วนกับ เบสท์ เอ็กซ์เพรส เพื่อเปิดประตูสู่ความสำเร็จด้านโลจิสติกส์ สามารถคลิกลงทะเบียนได้ที่นี่https://bit.ly/3lJnq0hหรือติดต่อพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ด้านการลงทุนที่LINE Official AccountของBEST FS CENTERที่ลิงก์นี้https://lin.ee/zGwucnDหรือหากไม่สะดวก โทร063-353-7056และ094-685-7400