รอสักครู่...

  • น.
พื้นที่โฆษณา

ข่าวราชการ, รัฐวิสาหกิจ

ข่าวราชการ, รัฐวิสาหกิจ - รัฐบาลใหม่จะขจัดคอร์รัปชันได้หรือไม่


ชอบข่าวนี้?
พื้นที่โฆษณา

บทความโดย ดร. มานะ นิมิตรมงคล

เลขาธิการ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันประเทศไทย

“รัฐบาลใหม่จะขจัดคอร์รัปชันได้หรือไม่ เพราะนี่คือต้นทุนทางธุรกิจที่หนักหนาสาหัสมาก และระบาดไปทั่ว ไม่ว่าจะขนาดใหญ่ กลาง หรือเล็ก และจะกล้าพอที่จะดำเนินการอย่างเป็นธรรมต่อ การคอร์รัปชันที่เกิดขึ้นไปแล้วโดยไม่เห็นแก่หน้าใครหรือไม่” คุณวรวรรณ ธาราภูมิ นักบริหารการเงินและการลงทุนชื่อดังได้กล่าวไว้

มีข้อสังเกตว่า การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งล่าสุดมี 8 พรรคการเมืองที่นำเสนอแนวทางแก้ปัญหาคอร์รัปชันแบบจริงจังเช่น ทำอย่างไรจะขจัดการเรียกรับเงินใต้โต๊ะในการจัดซื้อจัดจ้างฯ การจดทะเบียนและขอใบอนุญาตฯ การซื้อขายตำแหน่งเจ้าหน้าที่รัฐ การสร้างความโปร่งใสในการบริการประชาชน การใช้เทคโนโลยี การเปิดเผยข้อมูลภาครัฐ สนับสนุนประชาชนและเสรีภาพสื่อมวลชน การพัฒนากลไกตรวจสอบ การยกระดับความรับผิดชอบของพรรคการเมืองและผู้นำ โดยถือเป็นเรื่องเร่งด่วนและเป็นวาระแห่งชาติ

แต่จะเป็นเพียงลมปากของนักการเมืองหรือไม่? เพราะที่ผ่านมารัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นรัฐบาลแรกของไทย ที่ประกาศนโยบายต่อต้านคอร์รัปชันต่อรัฐสภาในวาระการเข้ารับตำแหน่งครั้งที่สองในปี 2562 ว่าจะให้ความสำคัญกับการกำจัด คอร์รัปชันในวงราชการและการเมือง ด้วยความรับผิดชอบทาง การเมืองและกลไกรัฐสภา จะจริงจังบังคับใช้กฎหมาย ใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาบริการประชาชน และสนับสนุนประชาชนมีส่วนร่วม

ท่านยังประกาศให้ “การต่อต้านคอร์รัปชันเป็นวาระแห่งชาติ” ไว้หลายครั้ง... แต่ความจริงเป็นอย่างไร?

เป็นที่ทราบกันดีว่าระหว่างปี 2558 – 2560 เป็นช่วงที่รัฐบาลรับฟังและตอบสนองเสียงของประชาชนและภาคเอกชนดีมาก มีการส่งสัญญาณชัดเจน (Political Will) ถึงเจ้าหน้าที่รัฐทุกฝ่ายว่าจะจัดการอย่างไรกับคอร์รัปชัน ประชาชนและภาคธุรกิจต่างรับรู้ชื่นชม วงราชการเริ่มดีมีพลัง มีการผลักดันกลไกและกฎหมายหลายอย่าง เพื่อแก้ปัญหาในการจัดซื้อจัดจ้าง การบริการประชาชนที่ยื่นขออนุญาตอนุมัติต่าง ๆ การทบทวนเพื่อตัดลดหรือแก้ไขกฎหมายที่ล้าสมัย การเสริมเขี้ยวเล็บ ป.ป.ช. ป.ป.ท. สตง. ส่งผลให้การสำรวจด้านธุรกิจคือ Ease of Doing Business, World Competitiveness Ranking และด้านคอร์รัปชันคือ CPI, Corruption Barometer, Corruption Situation Index (CSI) ของไทยดีขึ้นสอดคล้องกัน แสดงว่าเราสามารถต่อกรกับคอร์รัปชันได้ถ้าทุกฝ่ายทุ่มเทและผู้นำรัฐบาลเอาจริง

ถึงวันนี้ประเทศไทยได้พัฒนาการบริการประชาชนและภาคธุรกิจด้วย E-Service กว่า 720 บริการ แนวทางรัฐบาลดิจิทัลที่หลายหน่วยงานร่วมกันพัฒนามาต่อเนื่อง การจัดระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐให้ได้มาตรฐานสากล แต่ความพยายามเหล่านี้ได้หยุดชะงักหรือแทบจะเสียเปล่าไปเพราะหน่วยงานจำนวนมากไม่ได้ ใส่ใจปฏิบัติ เผยแพร่ นำไปพัฒนาต่อเนื่องเชื่อมโยงให้เกิดประโยชน์คุ้มค่า รัฐมนตรีก็ไม่แสดงความเดือดร้อน กับเรื่องเหล่านี้ เผลอ ๆ ยังฉวยเอาจุดอ่อนของระบบราชการไปเป็นประโยชน์กับพวกตนด้วยซ้ำไป ความพยายามตัดลดแก้ไขกฎหมายที่ล้าสมัยไร้ประโยชน์ที่ได้ศึกษาเตรียมการมาดีแล้ว ก็ดูหยุดนิ่งไป

มาวันนี้ความมั่นใจของสังคมจางหาย คอร์รัปชันในเมกะโปรเจคของรัฐ คอร์รัปชันทางการเมือง คอร์รัปชันเชิงนโยบาย การบิดเบือนอำนาจรัฐ ส่วย – สินบน – เงินใต้โต๊ะในระบบราชการทั้งส่วนกลางและท้องถิ่นกลับปะทุรุนแรง มาตรการสร้างความโปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้างอย่างโครงการข้อตกลงคุณธรรม ของดีกลับถูกหน่วยงานจำนวนหนึ่งดื้อแพ่งไม่ร่วมมือหน้าตาเฉย

ความถดถอยเช่นนี้ทำให้คิดไปว่า ไทยกำลังเป็นสังคมของคนโกงที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงได้อย่างนั้นหรือ? คงไม่ใช่แน่หากจะบอกว่าคนยุโรปหรือคนเอเชียอย่าง สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ฮ่องกง เขาดีกว่าฉลาดและเก่งกว่าคนไทย จึงสามารถควบคุมคอร์รัปชันได้ดีจนเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก

หากย้อนดูว่า ทำไมหลายพรรคการเมืองจึงประกาศนโยบายต่อต้านคอร์รัปชันที่จริงจังมากขึ้นในการเลือกตั้งครั้งนี้ แล้วทำไมเวทีดีเบตเลือกตั้งแต่ละแห่งจึงเต็มไปด้วยประเด็นคอร์รัปชัน

เรื่องนี้อธิบายได้จากผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนต่อนโยบายพรรคการเมืองและนักการเมืองในการเลือกตั้งปี 2566 ของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยที่จัดทำขึ้นสามเดือนก่อนการเลือกตั้ง ที่ระบุว่า คอร์รัปชันเป็นปัญหาใกล้ตัวที่ประชาชนอยากให้รัฐบาลใหม่แก้ไขอันดับแรก โดยประชาชนพร้อมจะมอบคะแนนเสียงให้กับพรรคที่มีนโยบายที่ชัดเจนในการแก้ปัญหา

บทพิสูจน์ที่ตามมาคือ ผลการเลือกตั้งมีนักการเมืองและกลุ่มก๊วนที่มีประวัติคดโกงต่างสอบตกจำนวนมาก ปรากฏการณ์นี้คือความหวังใหม่ ที่เกิดจากพลังตื่นตัวของประชาชนที่นักการเมืองต้องเรียนรู้อย่างรับผิดชอบ เพื่อมิให้ถูกสังคมลงโทษในอนาคต

สิ่งที่หวังว่าจะได้เห็นคือ นักการเมืองฝ่ายรัฐบาลต้องรักษาสัจจะ รัฐบาลต้องแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ให้คนไทยรู้ทั่วประเทศ ทุกนโยบายต่อต้านคอร์รัปชันที่ประกาศไว้จะต้องทำ นักการเมืองฝ่ายค้านต้องเรียนรู้แนวทางไปใช้ในการตรวจสอบรัฐบาล ทุกฝ่ายควรถือปฏิบัติว่าในเมื่อการต่อต้านคอร์รัปชันเป็นเรื่องของบ้านเมือง ความรู้และนโยบายในเรื่องนี้จึงเป็นของส่วนรวม ใครเสนออะไรไว้ดีแล้ว ทุกคนควรนำมาขับเคลื่อนต่อ

ที่ผ่านมาเราเคยฝากความหวังไว้กับรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 ที่ได้ชื่อว่าเป็น “รัฐธรรมนูญต่อต้านคอร์รัปชัน” เพราะมีมาตรการและการจัดตั้งองค์กรอิสระเพื่อปราบปรามคอร์รัปชัน แล้วพัฒนาต่อยอดให้เข้มแข็งขึ้นอีกเมื่อมีรัฐธรรมนูญปี 2550 มาถึงรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันก็ถูกขนานนามว่า “รัฐธรรมนูญปราบโกง” ที่เชื่อว่าจะทำให้ “ประชาชนเป็นใหญ่” แม้ไม่เคยเห็นประเทศไหนที่ประชาชนเป็นใหญ่เหนือชนชั้นปกครองได้จริง แต่สุดท้ายสถานการณ์คอร์รัปชันก็ย่ำแย่อย่างที่เห็น

บทเรียนจากการเลือกตั้งครั้งล่าสุดกลับบอกว่า ด้วยพลังประชาชนที่รู้เท่าทันและตื่นตัวต่างหาก ที่สามารถผลักดันให้กลุ่มอำนาจและผลประโยชน์ต่าง ๆ โดยเฉพาะผู้นำรัฐบาลและนักการเมืองต้องทำหน้าที่ ของตนเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติอย่างแท้จริง

เมื่อสังคมไทยก้าวเดินมาอย่างนี้และเชื่อว่าจะก้าวต่อไปอย่างเข้มแข็ง ย่อมทำให้เกิดมีความหวังมากขึ้นว่ารัฐบาลใหม่จะควบคุมและขจัดคอร์รัปชันได้ในอนาคตอันใกล้


"ข่าวประชาสัมพันธ์ ทันทุกกระแส" กับ @PRNewsThailand

เพิ่มเพื่อน
พื้นที่โฆษณา

แสดงความคิดเห็น

พื้นที่โฆษณา
คำค้นแนะนำ
Link

ข่าวประชาสัมพันธ์

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์

รับทำเว็บไซต์

รับทำเว็บไซต์โรงแรม

เว็บเซลเพจ

เว็บเซลเพจโรงแรม

โรงแรมนครศรีธรรมราช

นครศรีธรรมราช

รวมโรงแรมนครศรีธรรมราช

ผู้หญิง

เว็บไซต์ผู้หญิง

โปรโมชั่น

ความงาม

แฟชั่น

สุขภาพ

ไลฟ์สไตล์

สลากกินแบ่งรัฐบาล

ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล

หวย

ตรวจหวย

ลอตเตอรี่

เรียงเบอร์

รวมข่าวประชาสัมพันธ์

วงล้อนำโชค

สุ่มเลขนำโชค

ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์

ท้าวเวสสุวรรณ

หวยงวดนี้

เลขเด่นนำโชค

พระพิฆเนศ

นิวส์ไวร์

newswire

ไทยนิวส์ไวร์

thainewswire

จองตั๋วรถทัวร์

จองตั๋วรถทัวร์ออนไลน์

รีสอร์ทตราด

ตราดรีสอร์ท

โรงแรมตราด

Resort Trat

Trat Resort

ดูดวงไพ่ทาโรต์

ดูดวงไพ่ยิปซี

ดูดวงฟรี

ดูดวงออนไลน์

ดูดวงทั่วไป

ดูดวงการงาน

ดูดวงการเงิน

ดูดวงความรัก

ดูดวงสุขภาพ

ดูดวงการศึกษา

พื้นที่โฆษณา