ข่าวพลังงาน, สิ่งแวดล้อม - บี.กริม เพาเวอร์ รุกใหญ่ เดินเครื่อง COD โรงไฟฟ้าโซลาร์ รูฟท็อป

บี.กริม เพาเวอร์ รุกใหญ่ เดินเครื่องCODโรงไฟฟ้าโซลาร์ รูฟท็อป“อลาสก้า มิลค์”บริษัทนมใหญ่ที่สุดในฟิลิปปินส์ลุยขยายโรงไฟฟ้าโซลาร์ รูฟท็อป ทั้งในและต่างประเทศ
ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือBGRIMเปิดเผยว่าจากนโยบายในปี2564บี.กริม เพาเวอร์ มีแผนเดินหน้าขยายการลงทุนธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา (โซลาร์ รูฟท็อป)อย่างเต็มที่ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมผ่านการพัฒนาพลังงานสะอาด ซึ่งเป็นเป้าหมายของ บี.กริม ในการเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานสะอาด เพื่อร่วมกันลดภาวะโลกร้อนและดูแลสิ่งแวดล้อมด้วยกันอย่างยั่งยืน
สำหรับโรงไฟฟ้าโซลาร์ รูฟท็อป ในต่างประเทศ ล่าสุดบริษัทได้ดำเนินการก่อสร้างและบริหารจัดการงานเดินระบบและซ่อมบำรุงอุปกรณ์ในการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าโซลาร์รูฟท็อป รวม6เมกะวัตต์ ให้แก่Alaska Milk Corporationซึ่งเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์นมรายใหญ่ที่สุดของประเทศฟิลิปปินส์ ในเครือRoyal Friesland Campina N.V.บริษัทยักษ์ใหญ่ของโลก หนึ่งในผู้นำธุรกิจผลิตภัณฑ์นมที่ดำเนินธุรกิจมาอย่างยาวนานกว่า140ปี
โดยโครงการในเฟส1มีกำลังผลิตไฟฟ้าจำนวน3เมกะวัตต์ ได้เริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD)แล้วตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์2564และในส่วนของโครงการในเฟส2 ซึ่งมีกำลังผลิตไฟฟ้าจำนวน3เมกะวัตต์ ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการก่อสร้างซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จ และจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD)ได้ภายในเดือน ธันวาคม 2564 นี้
นอกจากนี้ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา บี.กริม เพาเวอร์ยังได้เริ่มก่อสร้างโรงไฟฟ้าโซลาร์ รูฟท็อป โดยมีกำลังการผลิตติดตั้งจำนวน5.67เมกะวัตต์ ให้กับบริษัทต่างๆ ในเครือของRepublic Biscuit Corporation(REBISCO)ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์อาหารชั้นนำระดับนานาชาติของประเทศฟิลิปปินส์ ที่มีประวัติการดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า58ปี อีกด้วย
อนึ่ง บี.กริม เพาเวอร์ ยังได้ลงนามความร่วมมือในบันทึกข้อตกลง และสัญญาซื้อขายไฟฟ้า โรงไฟฟ้าโซลาร์ รูฟท็อป กำลังการผลิตติดตั้งขนาด30เมกะวัตต์ ให้กับAl Madina Groupยักษ์ใหญ่ด้านอสังหาริมทรัพย์ รัฐสุลต่านโอมาน ซึ่งจะเป็นการรุกเข้าไปพัฒนาและบริหารจัดการโรงไฟฟ้าโซลาร์ รูฟท็อป ในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ที่มีโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญอีกด้วย
สำหรับโรงไฟฟ้าโซลาร์ รูฟท็อป ในประเทศไทย ปัจจุบัน บริษัทได้เข้าไปบริหารจัดการโรงไฟฟ้าโซลาร์รูฟ ท็อป ให้กับหลายองค์กร อาทิ ไอคอนสยาม,เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป,มูลนิธิทันตนวัตกรรมในพระบรมราชูปถัมภ์,เอไอเอ กรุ๊ป, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย, บริษัท อมตะ วอเตอร์ จำกัด ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี และระยอง และสวนอุตสากรรมบางกะดี ปทุมธานี เป็นต้น “การติดตั้งโซลาร์ รูฟท็อป ซึ่งเป็นระบบที่ต้องมีการบำรุงรักษาระยะยาว สัญญาส่วนใหญ่ที่ทำกับลูกค้าจึงเป็นสัญญา15-25ปีซึ่งเป็นการสร้างพันธมิตรระยะยาวระหว่าง บี.กริม เพาเวอร์ กับลูกค้าในการร่วมสร้างพลังงานสะอาดไปพร้อมกัน สะท้อนวิสัยทัศน์การดำเนินธุรกิจเพื่อ สร้างพลังให้กับสังคมโลกด้วยความโอบอ้อมอารี ของ บี.กริม เพาเวอร์ ได้อย่างเด่นชัด”ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ กล่าว
ด้านนายพีรเดชพัฒนจันทร์รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสฝ่ายกฎหมายและพัฒนาธุรกิจบริษัทบี.กริมเพาเวอร์ จำกัด(มหาชน)กล่าวว่า“ด้วยรูปแบบความต้องการใช้พลังงานที่เปลี่ยนแปลงไป ส่งผลให้องค์กรต่างๆ โดยเฉพาะองค์กรระหว่างประเทศ มีนโยบายลดการสร้างก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในระยะยาวและหันมาใช้พลังงานทดแทนเพิ่มขึ้น
“สำหรับ บี.กริม เพาเวอร์ การรุกเข้าสู่ธุรกิจโซลาร์รูฟท็อป ซึ่งถือเป็นพลังงานทดแทนที่มีการเติบโตสูง เมื่อบวกกับโครงการพลังงานในรูปแบบต่างๆ ที่บริษัทดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน ทำให้ บี.กริม เพาเวอร์ สามารถเสนอรูปแบบการจำหน่าย ดูแล และบำรุงรักษา ระบบไฟฟ้าให้กับลูกค้าได้อย่างครบวงจร และมีประสิทธิภาพมากขึ้นทั้งยังสามารถตอบโจทย์ทางด้านสิ่งแวดล้อมได้อย่างครบถ้วนมากขึ้น”
"ข่าวประชาสัมพันธ์ ทันทุกกระแส" กับ @PRNewsThailand
