ข่าวการศึกษา - กองทุนพัฒนาไฟฟ้า มาตรา 97(5) หนุน มธ. ปลุกพลังครู ม.ปลาย ร่วมพัฒนาสื่อการเรียนรู้พลังงานสะอาด

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ภายใต้การสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้า สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน พ.ศ. 2563 เดินหน้าขับเคลื่อน “โครงการนวัตกรรมการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เพื่อพลังงานสะอาด” จัดกิจกรรม “School Partner Orientation” นำเสนอแนวคิดกลุ่มนักศึกษา เตรียมความพร้อมสู่การเป็นสคูลพาร์ทเนอร์ร่วมกับครู 50 ทีม พร้อมจุดประกายไอเดียครู ม.ปลายหลากสาขา จากทั่วประเทศ ดีไซน์สื่อการเรียนรู้พลังงานสะอาด “Clean Energy for Life” ผลักดันการใช้พลังงานสะอาดในทุกภาคส่วน สร้างความมั่นคงด้านพลังงาน เชื่อมโยงเป้าหมายสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
คณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้จัดกิจกรรม “School Partner Orientation” ภายใต้การดำเนิน “โครงการพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เพื่อพลังงานสะอาด” ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้า สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน พ.ศ. 2563 เพื่อนำเสนอแนวคิดของนักศึกษาและเตรียมความพร้อมในการเป็นผู้อำนวยการเรียนรู้ (School Partner) ร่วมกับครูระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายทุกสาขาวิชาและอาชีวศึกษาทั่วประเทศที่เข้าร่วมโครงการฯ ณ ห้องอเนกประสงค์ 103 อาคารสิริวิทยลักษณ์ คณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ไปเมื่อเร็วๆ นี้ ที่เข้าร่วมโครงการฯ ณ ห้องอเนกประสงค์ 103 อาคารสิริวิทยลักษณ์ คณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ไปเมื่อเร็วๆ นี้
มธ. กับพันธกิจโดยตรงในการพัฒนาสื่อการเรียนรู้ด้านพลังงานสะอาด
รองศาสตราจารย์ ดร.อนุชาติ พวงสำลี คณบดีคณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยว่า คณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มุ่งเน้นการเรียนรู้ในลักษณะผสมผสาน ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติในรูปแบบที่ผู้เรียนมีส่วนร่วมเป็นสำคัญ(Active Learning) ตลอดจนร่วมขับเคลื่อนการเรียนรู้กับสถาบันการศึกษา ครู นักเรียน และสังคมการเรียนรู้ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง จากปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ทำให้ค้นพบว่าหัวใจสำคัญของการพัฒนาครูคือ “การพัฒนาสื่อการเรียนรู้ที่ดี” สร้างกระบวนการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นได้จริง ยั่งยืน และดำรงอยู่ได้ด้วยตัวของครูเอง” ซึ่งพลังงานสะอาดเป็นอีกหนึ่งประเด็นทางสังคมที่ผู้คนต่างหันมาให้ความสนใจมากขึ้นผ่านสื่อ และช่องทางต่าง ๆ แต่ยังไม่ตรงกลุ่มเป้าหมายเท่าที่ควร โดยเฉพาะในบริบทของภาคการศึกษา

คณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งมีพันธกิจโดยตรงในการพัฒนาสื่อการเรียนรู้ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้า สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน พ.ศ. 2563 ให้เป็นผู้ดำเนินโครงการพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เพื่อพลังงานสะอาดโดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาบุคลากรด้านการศึกษา อาทิ ครูระดับมัธยมศึกษาทุกสาขา นักศึกษาในระดับอุดมศึกษา ให้มีศักยภาพในการผลิตนวัตกรรมการเรียนรู้ด้านพลังงานสะอาดอย่างสร้างสรรค์ในการพัฒนาสื่อนวัตกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมการรู้เท่าทันพลังงาน (Energy Literacy) ให้เด็กและเยาวชนไทย
School Partner เพื่อนคู่คิด มิตรคู่ครู สร้างความตระหนักรู้ด้านพลังงาน
รองศาสตราจารย์ ดร.อนุชาติ กล่าวว่า กิจกรรม “School Partner Orientation” เป็นการนำเสนอแนวคิดของกลุ่มนักศึกษา 40 คน เพื่อแสดงความพร้อมในการเป็นผู้อำนวยการเรียนรู้ร่วมกับครู 50 ทีมที่เข้าร่วมโครงการพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เพื่อพลังงานสะอาด ให้สามารถนำไปพัฒนาสื่อการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับนักเรียนในแต่ละช่วงวัย และสามารถประเมินผลการเรียนรู้จากสื่อที่พัฒนาและต่อยอดได้ในอนาคต ซึ่งนอกจากนักศึกษาจะมีบทบาทในการเป็นส่วนหนึ่งของโครงการฯ แล้ว ยังถือเป็นการพัฒนาองค์ความรู้ให้นักศึกษาที่ต้องผ่านการอบรม กระบวนการเรียนรู้ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างเข้มข้น
โครงการพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เพื่อพลังงานสะอาด มีระยะเวลาดำเนินโครงการ18 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 – เดือนเมษายน 2565 โดยเริ่มเปิดรับสมัครครูระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและอาชีวศึกษาทั่วประเทศ จากนั้นทำการคัดเลือกเหลือ 50 ทีม ควบคู่ไปกับการพัฒนาสื่อต้นแบบและเตรียมความพร้อมนักศึกษา 40 คนให้เป็น School Partner เมื่อครูและนักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการได้พัฒนาความคิดสร้างสรรค์ผ่านการอบรมเชิงปฏิบัติการบนฐานการเรียนรู้เชิงประสบการณ์ รวมทั้งลงมือออกแบบและพัฒนาสื่อการเรียนรู้ด้านพลังงานสะอาดแบบสร้างสรรค์ ซึ่งกระบวนการต่างๆ เหล่านี้จะก่อให้เกิดการสร้างนวัตกรรมทางความคิด ทั้งในรูปแบบงานวิจัย บทเรียนออนไลน์ และระบบฐานข้อมูลคลังความรู้ออนไลน์ที่จะช่วยแพร่กระจายนวัตกรรมนี้สู่ชุมชน ครูในพื้นที่อื่น ๆ และนำไปสู่การสร้างความยั่งยืนด้านการรู้เท่าทันพลังงานในกลุ่มเด็กและเยาวชน
กองทุนพัฒนาไฟฟ้า มาตรา 97(5) ชูแคมเปญ “Clean Energy for Life” เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน
ทางด้าน ดร.บัณฑูร เศรษฐศิโรตม์ กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กล่าวว่า กกพ. ในฐานะองค์กรกำกับดูแลกิจการพลังงานด้านกิจการไฟฟ้าและกิจการก๊าซธรรมชาติ มีพันธกิจโดยตรงในการส่งเสริมสังคมและประชาชนให้มีความรู้และความตระหนักด้านพลังงาน รวมถึงส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างประหยัดและมีประสิทธิภาพ การใช้พลังงานหมุนเวียนและพลังงานที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการสื่อสารเพื่อกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมอย่างจริงจังในการใช้พลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียนให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ภายใต้แคมเปญ “Clean Energy for Life” หรือ “ใช้พลังงานสะอาดเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน” โดยมีกองทุนพัฒนาไฟฟ้า สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.)เป็นหน่วยงานที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินงาน

สำหรับการส่งเสริมการเรียนรู้เรื่องพลังงานสะอาดในภาคการศึกษา ถือเป็นอีกหนึ่งบทบาทของ กกพ. เนื่องจากการศึกษาเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะนำไปสู่การใช้พลังงานสะอาดเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นคนไทยจากการใช้และผลิตพลังงานสะอาดที่ไม่เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และนำไปสู่การเข้าถึงพลังงานสะอาดในราคาที่เข้าถึงได้ สร้างผลประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ ซึ่งทุกคนในสังคมไทยจะเป็นผู้ได้รับประโยชน์ และในท้ายที่สุดแล้ว การเปลี่ยนแปลงเชิงบวกนี้จะช่วยพัฒนาสังคมไทยให้เกิดสมดุลในทุกมิติ และเชื่อมโยงสังคมทุกระดับ จากครัวเรือนสู่ชุมชน สังคมโดยรวม และในระดับโลก บนเส้นทางสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals) ขององค์การสหประชาชาติ
วาดหวังเด็กไทยเพิ่มอัตราเร่งเปลี่ยนผ่านสังคมสู่การใช้พลังงานสะอาด
ในฐานะหนึ่งในคณะที่ปรึกษาของโครงการฯ นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ จังหวัดสงขลา ได้กล่าวเสริมในตอนท้ายว่า ภาคการศึกษามีภารกิจที่ชัดเจนในการสร้างกระบวนการเรียนรู้เกี่ยวกับพลังงานสะอาดให้กับเด็กและเยาวชน เนื่องจากโลกในอนาคตจะต้องพัฒนาและเปลี่ยนแปลงไปสู่ทิศทางของการใช้พลังงานสะอาด ไม่ว่าจะเป็นพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานชีวภาพ พลังงานชีวมวลเพื่อดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม และการให้ความสำคัญกับสุขภาพ ซึ่งพลังงานสะอาดสามารถตอบโจทย์ได้ครบทุกมิติ โดยคาดหวังว่าเด็กและเยาวชนที่ได้รับการปลูกฝังความคิด และองค์ความรู้ด้านพลังงานสะอาดที่จะเติบโตเป็นคนรุ่นใหม่ จะเป็นฟันเฟืองสำคัญที่จะเพิ่มอัตราเร่งในการปรับเปลี่ยนการใช้พลังงานของสังคมไทยไปสู่การใช้พลังงานสะอาดได้เร็วขึ้น

พร้อมกันนี้ยังได้ยกตัวอย่างการใช้ประโยชน์จากพลังงานสะอาด เช่น การติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ของโรงพยาบาลจะนะ จังหวัดสงขลา ที่สามารถลดภาระค่าไฟฟ้าอย่างเห็นได้ชัด โดยในปี 2559 ค่าไฟฟ้าโรงพยาบาลจะนะสูงถึง 3.31 ล้านบาท แต่หลังจากติดตั้งโซลาร์เซลล์ ขนาด 20 กิโลวัตต์ ในปี 2560 และเพิ่มเป็น 72 กิโลวัตต์ ในปี 2562 ควบคู่ไปกับมาตรการอื่น ๆ เช่น การเปลี่ยนมาใช้หลอด LED การติดฟิล์มอาคาร การเหลื่อมเวลาการใช้ไฟ ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าในปี 2563 ลดลงเหลือ 2.32 ล้านบาท สร้างการเปลี่ยนแปลงที่เห็นผลชัดเจน และปัจจุบันหน่วยงานภาครัฐและเอกชนได้นำโมเดลดังกล่าวไปใช้ในองค์กร ชุมชน และครัวเรือนซึ่งจะเป็นการเสริมความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ
"ข่าวประชาสัมพันธ์ ทันทุกกระแส" กับ @PRNewsThailand


