รอสักครู่...

  • น.
พื้นที่โฆษณา

ข่าวโควิด-19 (ยกเลิก)

ข่าวโควิด-19 (ยกเลิก) - วิจัยแบบจำลองสถานการณ์ ทางออกวิกฤตโควิด-19 เสนอรัฐแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ


ชอบข่าวนี้?
พื้นที่โฆษณา

สวรส. ชงผลวิจัย “แบบจำลองสถานการณ์” ทางออกวิกฤตโควิด-19 เสนอรัฐแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ ป้องกันวงจรอุบาทว์ “คนติดเพิ่ม-เตียงเต็ม-รอนาน-หมอขาด-อาการหนัก/ตาย” พร้อมสร้างสมดุลทางเศรษฐกิจกับการแก้ปัญหาการระบาด

จากสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ที่มีการแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา และมีแนวโน้มเพิ่มความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้สถานการณ์ปัญหานี้มีความซับซ้อนในหลายมิติ ทั้งในเรื่องโรคโควิด-19 เป็นเรื่องใหม่และเกิดการระบาดรุนแรงขึ้นในทั่วทุกมุมโลกที่ทุกประเทศต่างต้องการทรัพยากรในการป้องกันดูแลรักษาประชากรของตนเอง ความยากของการพัฒนา/ผลิตตลอดจนการจัดหาวัคซีน ลักษณะสายพันธุ์ของโรคที่มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา ลักษณะพฤติกรรมของสังคมที่มีผลต่อการแพร่ระบาด ระบบสาธารณสุขของแต่ละประเทศ รวมไปถึงปัญหาด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ฯลฯ ล้วนส่งผลเชื่อมโยงกัน โดยรัฐบาลที่ทำหน้าที่บริหารจัดการสถานการณ์ปัญหานี้จำเป็นต้องมีการพิจารณาข้อมูลอย่างรอบด้านเพื่อประสิทธิภาพที่เพียงพอต่อความหลากหลายของปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้ สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) ในฐานะหน่วยงานบริหารจัดการงานวิจัยเพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาระบบสุขภาพ โดยในสถานการณ์ระบาดโควิด-19 สวรส. มีหน้าที่นำเสนอข้อมูลจากงานวิจัยต่อภาคนโยบายเพื่อนำข้อมูลวิชาการไปใช้ในการตัดสินใจในการวางแผนบริหารจัดการ การออกแบบหรือทบทวนมาตรการสำคัญเพื่อการจัดการสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยการระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่นี้ สวรส. ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) และคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ทำการศึกษาวิจัย “การสังเคราะห์ข้อเสนอเพื่อสนับสนุนกระบวนการตัดสินใจเชิงนโยบายและการวางแผนการปรับตัวในภาวะวิกฤตของระบบสุขภาพของประเทศไทย” โดยการประยุกต์ใช้แบบจำลองสถานการณ์พลวัตระบบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ต่อยอดจากแบบจำลองทางระบาดวิทยาของกรมควบคุมโรค รวมทั้งเชื่อมโยงกับข้อมูลต่างๆ เพื่อคาดการณ์สถานการณ์ด้านระบาดวิทยา ซึ่งสามารถนำไปวางแผนลดผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคม สร้างความสมดุลทางด้านเศรษฐกิจกับมาตรการการป้องกัน ตลอดจนช่วยวางแผนการพัฒนานวัตกรรมเพื่อการควบคุมโรคจากการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน

ผศ.ดร.นพ.บวรศม ลีระพันธ์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล นักวิจัยเครือข่าย สวรส. กล่าวว่า งานวิจัยนี้ เป็นการทำงานต่อเนื่องมาตั้งแต่การระบาดโควิด-19 ในระยะแรก เมื่อเดือนเมษายน 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งผลวิจัยได้ถูกนำไปสนับสนุนการพิจารณาเพื่อวางแผนเชิงนโยบายในการผ่อนคลายมาตรการในช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ของปีที่แล้ว รวมถึงมาตรการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การปรับตัวของระบบบริการเพื่อรองรับการให้บริการระบบทางไกล โดยงานวิจัยได้ใช้ความรู้และรวบรวมข้อมูลทางระบาดวิทยาในประเทศไทย ตลอดจนข้อมูลความสามารถในการรองรับผู้ติดเชื้อในระบบบริการสุขภาพในพื้นที่ต่างๆ ร่วมกับการสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ ซึ่งในเชิงระบาดวิทยาสามารถคาดการณ์ได้แม่นยำระดับหนึ่งว่าในอนาคตอันใกล้จะมีจำนวนผู้ป่วยแต่ละประเภทเท่าไหร่ ทั้งผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น ผู้ป่วยที่มีอาการหนัก ผู้ป่วยที่มีอาการน้อย และผู้ป่วยที่ไม่มีอาการ เพื่อช่วยในการตัดสินใจของผู้กำหนดนโยบายในการเตรียมระบบบริการทางด้านสาธารณสุข หรือมาตรการควบคุมโรค

ทั้งนี้ ข้อมูลตัวแปรในการศึกษา ซึ่งจะถูกนำเข้าในแบบจำลองสถานการณ์ อาทิเช่น ข้อมูลระบาดวิทยา ได้แก่ ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันในพื้นที่ต่างๆ ที่รายงานโดยศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. โดยกำหนดให้จำนวนผู้ป่วยคืออุปสงค์ของระบบสุขภาพ ส่วนอุปทานจะเป็นจำนวนเตียง จำนวนการรองรับของ รพ.สนาม/Hospitel ฯลฯ หรือในกรณีการแยกโรคที่บ้าน (Home Isolation) ที่ถูกพูดถึงขณะนี้ แต่ยังไม่มีการดำเนินการ เนื่องจากระบบหลักยังรองรับผู้ป่วยได้ และยังต้องมีการเตรียมมาตรการที่เหมาะสม ในกรณี Home Isolation มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งตัวอย่างจากแบบจำลองสถานการณ์ในกรณีที่ทำ Home Isolation ประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ แสดงให้เห็นว่าหากผู้ถูกแยกโรคที่บ้านจำนวนประมาณ 10-15% ปฏิบัติตนไม่ได้ตามมาตรฐานและยังแพร่เชื้อในชุมชน จะทำให้ในระยะยาว การทำ Home Isolation สร้างความต้องการเตียงเพิ่มขึ้น มากกว่ากรณีไม่ทำ Home Isolation ดังนั้นการทำ Home Isolation ไม่สามารถทำได้กับผู้ป่วยที่มีอาการน้อยหรือไม่มีอาการทุกกลุ่ม และควรมีการประเมินจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขก่อนว่า แต่ละบ้านมีความพร้อมหรือไม่ ซึ่งถ้ายังไม่พร้อม ต้องรีบจัดการให้ผู้ป่วยเข้าสู่ระบบบริการให้เร็วที่สุด ทั้งนี้ หากผู้กำหนดนโยบายพิจารณาใช้นโยบายการทำ Home Isolation ควรมุ่งเน้นให้มีการใช้ “เกณฑ์คัดเลือก” ผู้ติดเชื้อที่สามารถแยกกักโรคที่บ้านได้ และเกณฑ์การปฏิบัติการตามมาตรฐานส่วนกลาง เช่น หลีกเลี่ยงถ้าคนในครอบครัวเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง และอาจมีการพิจารณาให้วัคซีนแก่ครอบครัวของผู้ถูกแยกกักโรคที่บ้าน แม้ว่าระยะเวลาที่ฉีดวัคซีนให้อาจไม่ทันสร้างภูมิคุ้มกันให้ครอบครัว แต่อาจช่วยการป้องกันการติดเชื้อในชุมชน และช่วยเพิ่ม Vaccine Coverage ในประชากรกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงได้ เพราะฉะนั้นแบบจำลองสถานการณ์จะช่วยให้ผู้กำหนดนโยบายพิจารณาข้อมูลอย่างรอบด้านและเห็นองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องมากขึ้นก่อนการตัดสินใจ

ผศ.ดร.นพ.บวรศม ลีระพันธ์ อธิบายเพิ่มเติมว่า การประยุกต์ใช้กระบวนการคิดเชิงระบบเป็นวิธีการหนึ่งในการช่วยแก้ไขปัญหาที่นโยบายต้องนำไปพิจารณา เพราะหากขาดสิ่งนี้ วงจรของความขาดแคลนอาจเกิดขึ้นได้กับประเทศ คือ พอเตียงเริ่มเต็มทั้งเตียงธรรมดาหรือ ICU ทำให้ผู้ป่วยต้องรอเข้ารับการรักษาเป็นเวลานาน ซึ่งเริ่มมีให้เห็นบ้างแล้วในรายที่รอนานจนเสียชีวิตที่บ้าน หรือบางคนที่รอนานจนอาการหนัก ทำให้เมื่อเข้าโรงพยาบาล จึงใช้เวลาในการครองเตียงนาน และส่งผลให้ผู้ติดเชื้อรายใหม่ไม่สามารถเข้ารับการรักษาได้ เกิดเป็นวงจรอุบาทว์ ซึ่งถ้าจะหลุดจากวงจรนี้ ต้องทำให้ผู้ติดเชื้อสามารถเข้าถึงระบบบริการได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ผลการวิจัยกรณีการลดระยะเวลานอนโรงพยาบาลจาก 14 วัน เป็น 10 วัน และหลังจากนั้นให้กลับไปพักฟื้นที่บ้านต่ออีก 14 วัน พบว่า เป็นทางเลือกเชิงนโยบายที่อาจช่วยลดจำนวนผู้ป่วยครองเตียงในแต่ละวันได้เพียงระยะสั้น แต่ในระยะยาวความต้องการเตียงสำหรับผู้ติดเชื้อในแต่ละวันยังคงเพิ่มมากขึ้นตามแนวโน้มการระบาดในระดับประเทศ ทั้งนี้ ผลวิจัยดังกล่าว ได้นำเสนอต่อกระทรวงสาธารณสุข บางส่วนได้มีการนำไปเป็นนโยบายดำเนินการแล้ว ส่วนความต้องการเตียงสำหรับการรักษาและควบคุมโรคเพิ่มเติมในระยะ 30-45 วันข้างหน้า จากการคาดการณ์พบว่า จำนวนเตียงที่เตรียมไว้จำนวน 32,037 เตียง (ข้อมูล 19 เม.ย.64) น่าจะ “เพียงพอ” ต่อการรองรับผู้ติดเชื้อในช่วงสูงสุดประมาณต้นเดือนพฤษภาคม แต่ปัญหาเฉพาะหน้าสำคัญตอนนี้คือ จำนวน ICU อาจมี “ไม่เพียงพอ” ที่จะรองรับผู้ป่วยที่มีอาการวิกฤต โดยเฉพาะถ้าผู้ป่วยวิกฤตที่มีระยะเวลาการครองเตียง ICU เฉลี่ยมากกว่า 21 วัน ซึ่งควรมีการสำรอง ICU ทั้งประเทศ รวมทั้ง Modified AIIRs ในโรงพยาบาลใหญ่ๆ ให้ได้ประมาณ 1,900 units หรือควรมีจำนวนเพิ่มเติมอีกประมาณ 1-1.2 เท่า ของจำนวน ICU ที่กำลังถูกใช้งานในปัจจุบัน (ประมาณ 800 units) สำหรับกำลังคนด้านสุขภาพที่สามารถดูแลผู้ป่วยวิกฤตได้ ซึ่งมีจำนวนจำกัดมากนั้น อาจยังเป็น “คอขวดของระบบ” ที่จะทำให้การรักษาโรคดำเนินไปด้วยดี

สำหรับแบบจำลองสถานการณ์นี้ได้มีการนำเสนอต่อผู้กำหนดนโยบายเพื่อช่วยในกระบวนการตัดสินใจมาเป็นระยะ ซึ่งทีมวิจัยได้มีการพัฒนาประเด็นการทำงานไปตามที่ผู้กำหนดนโยบายให้ความสำคัญ เพื่อให้ผลวิจัยเกิดการใช้ประโยชน์สูงสุด และทันต่อสถานการณ์ โดยที่ผ่านมาการทำแบบจำลองสถานการณ์ทำในระดับประเทศ แต่ขณะนี้กำลังมีการพัฒนาโมเดลระดับพื้นที่ เช่น กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีปัญหาเตียงผู้ป่วยเต็มเร็ว หรือในกรณีต่างจังหวัด เช่น ภูเก็ต การพัฒนาแบบจำลองอาจเข้ามาช่วยตอบโจทย์การเปิดเมืองได้ระดับหนึ่งทั้งในเรื่องวัคซีนพาสปอร์ต การคาดการณ์โรคเพื่อการบริหารจัดการทีมสอบสวนโรคในการติดตามและควบคุมการแพร่ระบาดได้ รวมทั้งในระยะถัดไป มีการวางแผนที่จะทำแบบจำลองสถานการณ์เรื่องวัคซีนนอกเหนือจากมาตรการควบคุมโรคด้วย

ด้าน ผศ.ดร.จรวยพร ศรีศศลักษณ์ ผู้จัดการงานวิจัยอาวุโส สวรส. กล่าวว่า งานวิจัยดังกล่าวเป็นหนึ่งในงานวิจัยเชิงระบบของ สวรส. ที่เร่งดำเนินการเพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ซึ่ง สวรส.ได้พัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบายในลักษณะนี้มาโดยตลอด ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศไทย เพื่อนำข้อมูลหรือหลักฐานเชิงประจักษ์นี้เสนอต่อหน่วยนโยบายต่างๆ ในการพิจารณาตัดสินใจกำหนดมาตรการหรือปรับการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้งานวิจัยดังกล่าวได้ถูกนำเสนอต่อผู้กำหนดนโยบายและศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เรียบร้อยแล้ว ซึ่งคาดว่าข้อมูลจากงานวิจัยจะเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการตอบสนองการจัดการแก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสม ทันต่อสถานการณ์ และมีประสิทธิภาพมากขึ้น


"ข่าวประชาสัมพันธ์ ทันทุกกระแส" กับ @PRNewsThailand

เพิ่มเพื่อน
พื้นที่โฆษณา

แสดงความคิดเห็น

พื้นที่โฆษณา
คำค้นแนะนำ
Link

ข่าวประชาสัมพันธ์

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์

รับทำเว็บไซต์

รับทำเว็บไซต์โรงแรม

เว็บเซลเพจ

เว็บเซลเพจโรงแรม

โรงแรมนครศรีธรรมราช

นครศรีธรรมราช

รวมโรงแรมนครศรีธรรมราช

ผู้หญิง

เว็บไซต์ผู้หญิง

โปรโมชั่น

ความงาม

แฟชั่น

สุขภาพ

ไลฟ์สไตล์

สลากกินแบ่งรัฐบาล

ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล

หวย

ตรวจหวย

ลอตเตอรี่

เรียงเบอร์

รวมข่าวประชาสัมพันธ์

วงล้อนำโชค

สุ่มเลขนำโชค

ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์

ท้าวเวสสุวรรณ

หวยงวดนี้

เลขเด่นนำโชค

พระพิฆเนศ

นิวส์ไวร์

newswire

ไทยนิวส์ไวร์

thainewswire

จองตั๋วรถทัวร์

จองตั๋วรถทัวร์ออนไลน์

รีสอร์ทตราด

ตราดรีสอร์ท

โรงแรมตราด

Resort Trat

Trat Resort

ดูดวงไพ่ทาโรต์

ดูดวงไพ่ยิปซี

ดูดวงฟรี

ดูดวงออนไลน์

ดูดวงทั่วไป

ดูดวงการงาน

ดูดวงการเงิน

ดูดวงความรัก

ดูดวงสุขภาพ

ดูดวงการศึกษา

พื้นที่โฆษณา