รอสักครู่...

  • น.
พื้นที่โฆษณา

ข่าวโควิด-19 (ยกเลิก)

ข่าวโควิด-19 (ยกเลิก) - วิศวะมหิดล ผนึกพลัง เอไอเอส พัฒนา UVC Moving CoBot หุ่นยนต์กำจัดไวรัส 99.99 %


ชอบข่าวนี้?
พื้นที่โฆษณา

ทั่วโลกมียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมกว่า 127 ล้านคนแล้ว คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ผนึกพลังความร่วมมือกับ บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด มหาชน (เอไอเอส) เผยต้นแบบนวัตกรรม UVC Moving CoBot ระบบหุ่นยนต์ฆ่าเชื้อด้วยรังสียูวีซีแบบเคลื่อนที่ มีมือจับฉายรังสี UV-C แบบเคลื่อนที่ (Moving UV-C Radiation Source) สามารถฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรียได้ถึง 99.99 % โดยใช้ 5G และเชื่อมต่อผ่าน IoT ควบคุมระยะห่าง กำหนดความเร็วได้แม่นยำเพื่อให้มีประสิทธิภาพและทั่วถึง คาดใช้เวลา 6 เดือนพัฒนาจากต้นแบบสู่ผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ในอนาคต ตอบรับการเปิดประเทศ โดยนวัตกรรมนี้ได้รับการจดสิทธิบัตรแล้ว

รศ.ดร.จักรกฤษณ์ ศุทธากรณ์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า แม้ว่าวัคซีนโควิดจะเริ่มนำเข้ามาฉีดให้ประชาชนแล้ว เรายังจำเป็นต้องอยู่ร่วมกับโควิดต่อไป จึงเป็นที่มาของการพัฒนาต้นแบบนวัตกรรม UVC Moving CoBot ระบบหุ่นยนต์ฆ่าเชื้อด้วยรังสียูวีซีแบบเคลื่อนที่ โดยทีมวิจัยคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และเป็นที่น่ายินดีที่ คณะวิศวะมหิดล และ เอไอเอส ได้ลงนามความร่วมมือ (MOA) ผนึกพลังของผู้นำภาควิชาการและผู้นำเทคโนโลยีสื่อสารของไทยที่จะพัฒนาจากต้นแบบนวัตกรรมนี้ไปสู่ผลิตภัณฑ์ที่เป็นจริงและมีศักยภาพในตลาด เพื่อประโยชน์ต่อคนไทยและเศรษฐกิจไทยโดยรวม มุ่งตอบโจทย์ทำอย่างไรจึงจะสร้างพื้นที่ปลอดไวรัสที่มีประสิทธิภาพสูง ฆ่าเชื้อไวรัสและเชื้อโรคได้อย่างมั่นใจและทั่วถึง ตลอดจนทำงานอัตโนมัติแทนมนุษย์ได้ 24 ชม.เพื่อให้คนไทยรับมือกับ Next Normal และโควิด-19 ระลอกใหม่หรือสายพันธุ์ใหม่ที่อาจเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ โดยรัฐบาลมีโรดแมปเปิดประเทศไทย ซึ่งจะเริ่มเป็นขั้นตอนตั้งแต่ไตรมาส 2 (เม.ย. - มิ.ย. 64) เป็นต้นไป คาดว่าเดือนมกราคม 2565 ความหวังเปิดทั้งประเทศที่คนไทยรอคอยน่าจะเป็นจริง

คุณอราคิน รักษ์จิตตาโภค หัวหน้าฝ่ายขับเคลื่อนนวัตกรรม บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด มหาชน (เอไอเอส) กล่าวว่า “เรามีความมุ่งมั่นในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและขีดความสามารถของทีมงาน มาร่วมยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลของประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา กับ “โครงการ AIS ROBOT FOR CARE” ที่ได้นำศักยภาพของเครือข่าย 5G, AI, Cloud และ Robotic มาประยุกต์ใช้เป็นโครงข่ายดิจิทัลพื้นฐานสำคัญสำหรับการพัฒนาหุ่นยนต์ 5G เพื่อช่วยงานทางการแพทย์ วันนี้ เอไอเอส จึงภูมิใจอย่างยิ่งที่ทีม AIS Robotic Lab ได้ร่วมมือกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.มหิดล วิจัยพัฒนา UVC Moving CoBot ต้นแบบระบบหุ่นยนต์แขนกลอัจฉริยะฆ่าเชื้อด้วยรังสียูวีซี ที่จะพัฒนาผลิตเชิงพาณิชย์ในขั้นต่อไปซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือน อาจเป็นการขายและบริการให้เช่า ช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย และคนไทยสามารถใช้นวัตกรรมในราคาประหยัด ลดการนำเข้า สร้างความปลอดภัยในการดำเนินธุรกิจและชีวิตประจำวัน นำมาซึ่งความมั่นคงทางสุขภาพและเศรษฐกิจของประเทศ นอกจากนี้ ยังเป็นการบ่มเพาะบุคลากรด้าน Digital และ Robotic ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทยเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบอีกด้วย”

ดร.เอกชัย วารินศิริรักษ์ หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า “ไวรัสโรค COVID-19 และเชื้อโรคอีกหลายชนิด นอกจากระบาดโดยการแพร่กระจายในละอองฝอยอากาศแล้ว ยังอาจกระจายเชื้อไวรัสและเชื้อต่างๆสู่พื้นผิวของวัสดุและของใช้ต่าง ๆ ได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะในพื้นที่สาธารณะขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นอาคาร ร้านค้า โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาเก็ต โรงภาพยนตร์ สำนักงาน เป็นต้น ในทางวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์เป็นที่ยอมรับว่า การใช้รังสี UV-C ที่มีความยาวคลื่น 200-280 นาโนเมตร สามารถฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรียที่อยู่บนพื้นผิวต่างๆได้ ปัจจัยที่จะทำให้การฆ่าเชื้อด้วยรังสียูวีซีได้เต็มประสิทธิภาพ ขึ้นอยู่กับการออกแบบทางวิศวกรรม ได้แก่ 1.ค่าความเข้มของหลอด (Power Density) 2.ระยะห่างของพื้นผิวที่ต้องการฉายเพื่อฆ่าเชื้อ และ 3.ระยะเวลาของการฉายรังสี (Time)จะต้องนำแสงรังสีเข้าใกล้กับตัวพื้นผิวที่ต้องการฆ่าเชื้อให้มากที่สุด และต้องครอบคลุมทั่วถึงพื้นผิวทั้งหมดด้วย (ระยะห่าง ขึ้นอยู่กับกำลังวัตต์ ตามหลักวิศวกรรม)

ระบบหุ่นยนต์ฆ่าเชื้อด้วยรังสียูวีซีแบบเคลื่อนที่ UVC Moving CoBot มีส่วนประกอบหลัก 4 อย่าง ซึ่งทำงานร่วมกัน คือ 1. แหล่งกำเนิดรังสียูวีซี ติดตั้งบนปลายแขนของหุ่นยนต์แขนกล 2. หุ่นยนต์แขนกลอัจฉริยะ ติดตั้งเข้ากับ AGV รถนำทางอัตโนมัติ ครอบคลุมการฉายรังสีในระยะ 65 - 75 ตารางเซนติเมตร ความเร็วสูงสุด 110 เซนติเมตร/นาที ยกโหลดน้ำหนักได้ 5 กิโลกรัม 3. รถนำทางอัตโนมัติ (Automated Guide Vehicle : AGV) สามารถเคลื่อนที่ไปตามเส้นทางที่กำหนดไว้ รับน้ำหนักได้ถึง 500 กิโลกรัม ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่เป็นระบบขับเคลื่อน 4. ระบบเครื่องจักรมองเห็น (Machine Vision) โดยระบบจะจดจำวัตถุและออกคำสั่งการเคลื่อนที่ตามที่บันทึกไว้หรือรหัสบาร์โค้ด”

UVC Moving CoBot ได้ผ่านการทดสอบในประสิทธิภาพการฆ่าเชื้อไวรัสสูงถึง 99.99 % จากศูนย์วิจัยพัฒนาวัคซีน สถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล ม.มหิดล จุดเด่นและประโยชน์ คือ แขนกลของหุ่นยนต์สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ จึงสามารถทำความสะอาดโต๊ะ ตู้ เตียง ผนัง ชั้นวางสินค้า และฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรียได้อย่างทั่วถึง พร้อมกันนี้ยังได้ร่วมกันพัฒนาฟีเจอร์อัจฉริยะ อย่าง เทคโนโลยี Virtual Mapping ที่ช่วยกำหนดแผนที่เส้นทางเดินของหุ่นยนต์ได้ตามต้องการอย่างรวดเร็ว ผ่านเครือข่าย 5G ทำงานแทนมนุษย์ได้อัตโนมัติ ตลอด 24 ชั่วโมง ลดภาระงานหนัก และลดความเสี่ยงต่ออันตรายจากรังสี UV-C และลดการติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ


"ข่าวประชาสัมพันธ์ ทันทุกกระแส" กับ @PRNewsThailand

เพิ่มเพื่อน
พื้นที่โฆษณา

แสดงความคิดเห็น

พื้นที่โฆษณา
คำค้นแนะนำ
Link
พื้นที่โฆษณา