รอสักครู่...

  • น.
พื้นที่โฆษณา

ข่าวโควิด-19 (ยกเลิก)

ข่าวโควิด-19 (ยกเลิก) - มูลนิธิชีววิถี-ขสช.เรียกร้องรัฐบาลหยุดคำสั่งเหวี่ยงแห หลังโควิดสั่งปิดตลาด 72 แห่ง


ชอบข่าวนี้?
พื้นที่โฆษณา

มูลนิธิชีววิถี-ขสช.เรียกร้องรัฐบาลหยุดคำสั่งเหวี่ยงแห หลังโควิดสั่งปิดตลาด 72 แห่ง พบบางจังหวัดตลาดนัด ถนนคนเดินถูกสั่งปิดทั้งหมดกว่าสองสัปดาห์ แนะรัฐจัดสรรงบประมาณช่วยเหลือเยียวยาผู้ค้าที่ถูกสั่งปิด ด้านผู้บริหารตลาดอ่อนนุชแนะเจ้าของตลาดอย่าปกปิดข้อมูล หากพบผู้ติดเชื้อต้องทำตามขั้นตอน มาตรการสาธารณสุข เร่งประชาสัมพันธ์ให้ข้อเท็จจริง สร้างความเชื่อมั่นโดยเร็ว
วันนี้(18 มกราคม 2564) ที่ เดอะฮอล์บางกอก ในเวทีเสวนา“รักษาตลาด รักษาทุกชีวิต สู้โควิด-19 รอบใหม่” จัดโดย มูลนิธิชีววิถี ร่วมกับ ขบวนการสร้างเสริมสุขภาพประชาชน(ขสช.)
นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถี (BIOTHAI) กล่าวว่า จากสถานการณ์โควิด-19 รอบใหม่ ส่งผลกระทบรุนแรงทั้งเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง สะเทือนไปถึงรากหญ้า คนค้าขายหาเช้ากินค่ำ ตลาดสดตลาดนัดทยอยถูกสั่งปิดมากกว่า 72 แห่ง รวม 33 จังหวัด กลับมาเปิดใหม่ได้ 33 แห่ง จึงเกิดความสับสนไม่ชัดเจนในมาตรการ ปิด-เปิด การฟื้นความเชื่อมั่นและช่วยเหลือเยียวยา การปิดตลาดไม่ได้ส่งผลต่อผู้ค้าเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเกษตรกรรายย่อย แรงงาน และผู้บริโภคที่เกี่ยวข้อง พวกเขาประสบปัญหาทางเศรษฐกิจหนักหนาสาหัสมาแล้วตั้งแต่เริ่มต้นการระบาดรอบแรก ตอนนี้ต้องมาถูกซ้ำเติมจากมาตรการที่ลักลั่น เหวี่ยงแห และไม่เอื้อเฟื้อต่อคนเล็กคนน้อย ความเดือดร้อนดังไม่ถึงหูผู้มีอำนาจ ไม่ฟังคำท้วงติงและข้อเสนอแนะ
นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ขบวนการสร้างเสริมสุขภาพประชาชน และมูลนิธิชีววิถี มีข้อเสนอต่อรัฐบาล ดังนี้ 1.รัฐบาลต้องมีจุดยืนในการปกป้องรักษาตลาดไว้ให้เป็นแหล่งอาหารสำคัญของประชาชน ส่งเสริมผู้ประกอบการรายย่อย ส่งเสริมตลาด รวมถึงบรรดารถเร่หรือรถพุ่มพวง ไม่เลือกปฏิบัติ เพ่งเล็งเฉพาะตลาด แต่ปล่อยวางโมเดิร์นเทรด ร้านสะดวกซื้อติดแอร์ ซึ่งมีความเสี่ยงมากกว่าและจะกลายเป็นการขยายความเหลื่อมล้ำซ้ำเติมปัญหา 2.จัดระเบียบตลาดให้ถูกสุขอนามัย ลดความเสี่ยงทุกรูปแบบ ควรสร้างการมีส่วนร่วมสนับสนุนให้มีการทำแผนจัดการลดความเสี่ยง กำหนดข้อตกลง โดยให้ทางตลาดเสนอแผนเพื่อพิจารณาเป็นหลักประกันร่วมกัน ซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่าการสั่งปิดอย่างเดียว 3.กำหนดการช่วยเหลือเยียวยาพ่อค้าแม่ค้า ผู้ประกอบการ กรณีตลาดที่ถูกสั่งปิด และควรจัดสรรงบประมาณฟื้นฟูเศรษฐกิจ มาช่วยคนเล็กคนน้อยให้เข้าถึงแห่ลงทุนในการทำมาค้าขายในยามวิกฤตนี้ 4.กรณีตลาดที่เปิดซื้อขายตามปกติ ควรปฏิบัติตามข้อแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขโดยเคร่งครัด อาทิ จำกัดทางเข้าออก คัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิ กำหนดจุดล้างมือ สวมหน้ากากทุกคน รักษาระยะห่างระหว่างกัน และจัดบิ๊กคลีนนิ่งฆ่าเชื่อทุกสัปดาห์ เป็นต้น 5.กรณีมีคำสั่งปิดตลาด ต้องมีฐานอ้างอิงที่ชัดเจนว่าปิดเพราะอะไร และตลาดต้องทำตามมาตรฐานและเงื่อนไขต่างๆอย่างเป็นขั้นเป็นตอน อาทิ กำหนดระยะเวลาปิดชัดเจนกี่วัน กันเป็นพื้นที่ห้ามเข้าออก ทำการพ่นน้ำยาฆ่าเชื่อ ตรวจหาเชื้อผู้ที่เกี่ยวข้องในตลาดเพื่อเข้าสู่การกักตัว รักษา เป็นต้น ข้อสำคัญต้องมีการประชาสัมพันธ์อย่างกว้างขวางไม่ปกปิดข้อมูล ในช่วงปิดตลาดจำเป็นต้องดำเนินการตามมาตรฐานสาธารณสุข เพื่อสร้างความเชื่อมั่นทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย
นางอมรรัตน์ อ่อนนุช ผู้จัดการตลาดอ่อนนุช กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในรอบแรก พ่อค้า-แม่ค้า ในตลาดได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อย เนื่องจากขณะนั้นพื้นที่เสี่ยงอยู่ในห้าง สนามมวย ผับบาร์ รวมถึงสถานที่ที่อากาศไม่ถ่ายเทตลาดจึงไม่ถูกสั่งปิด ทั้งนี้เพื่อสร้างมาตรฐานในด้านสุขาภิบาลตามประกาศของกรุงเทพมหานคร และคำแนะนำของสำนักงานบริการสาธารณสุขในพื้นที่ ตลาดอ่อนนุชได้ปรับปรุงพื้นที่ตั้งจุดคัดกรอง กั้นทางเข้า-ออกตลาดให้เหลือเพียงทางเดียว พร้อมติดตั้งอ่างล้างมือเท้าเหยียบให้ประชาชนใช้บริการ มีการทำความสะอาดตลาดอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ในส่วนของพ่อค้าและแม่ค้า เราได้ขอความร่วมมือให้สวมหน้ากากทุกคน พร้อมกับติดตั้งฉากปิดกั้นหน้าร้าน เป็นการทำงานร่วมกันกับสำนักงานเขต ฝ่ายสาธารณสุข และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ในช่วงนั้นลูกค้ายังไม่มีความเชื่อมั่นและไม่กล้าใช้บริการรถสาธารณะในการเดินทางมาจ่ายตลาด ทางตลาดจึงคิดไอเดีย บริการ Drive Thruและ Delivery เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้า ที่สำคัญเป็นการเพิ่มยอดขายให้ผู้ค้าอีกช่องทางหนึ่งด้วย
นางอมรรัตน์ กล่าวต่อว่า เมื่อทราบข่าวการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ ในตลาดขายส่งกุ้ง จ.สมุทรสาคร ทางเรารีบสำรวจข้อมูลผู้ขายอาหารทะเลที่เดินทางไปรับสินค้าในจังหวัดดังกล่าว และขอความร่วมมือให้ไปตรวจคัดกรองโรคและกักตัว 14 โดยด่วน ผู้ค้าให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ส่วนที่พบผลตรวจเป็นบวก จึงรีบปิดโซนจุดเสี่ยงทำการพ่นฆ่าเชื้อและรายงานไปยังเขตทันที เพื่อขออนุญาตปิดตลาดทำความสะอาด พ่นฆ่าเชื้อ หลังจากนั้นได้หารือกับเจ้าหน้าที่เขตวัฒนาและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อหามาตรการในการควบคุมและป้องกันการติดเชื้อ รวมถึงการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า เนื่องจากมีการแชร์ข่าวออนไลน์จำนวนมาก หลังพบผู้ติดเชื้อในตลาด ทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นและตื่นตระหนก สิ่งแรกที่จะต้องทำคือการสร้างขวัญและกำลังใจพ่อค้า-แม่ค้าในตลาด ให้ต่อสู้และเชื่อมั่นกับมาตรการทางด้านสุขาภิบาลของตลาด ในส่วนของลูกค้าเราได้เปิดเฟซบุ๊กเพจให้ลูกค้าที่มีไข้ หรือมีทามไลน์ตรงกับช่วงที่พบผู้ที่ติดเชื้อในตลาด เข้ามาลงชื่อตรวจคัดกรองโควิดฟรี และสื่อสารให้เข้าใจถึงการยกระดับมาตรฐานการทำความสะอาดอย่างเข้มงวด รวมถึงการส่งรูปและรายงาน การวัดไข้พ่อค้า-แม่ค้า การทำความสะอาดตลาดให้ กทม. อย่างต่อเนื่อง สิ่งสำคัญคือตลาดต้องไม่ปกปิดข้อมูล ต้องประชาสัมพันธ์ให้ข่าวสารอย่างจริงใจ อย่าปล่อยให้ข่าวลือความระแวงทำงานจากความไม่ชัดเจนของตลาด
“การได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน รวมถึงการทำตามมาตรการของภาครัฐ ทำให้ตลาดอ่อนนุชไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มและไม่ถูกสั่งปิด การรับผิดชอบตัวเราเอง และเรียนรู้กฎของการอยู่ร่วมกันในช่วงการแพร่ระบาดของโรค จะทำให้เราอยู่รอดในทุกสถานการณ์ ส่วนตลาดที่ถูกสั่งปิด ภาครัฐควรมีเกณฑ์การพิจารณาให้ชัดเจนกว่านี้ เช่น หากตลาดมีผู้ติดเชื้อ ต้องหาวิธีลดการแพร่เชื้อ ส่วนตลาดที่ไม่พบผู้ติดเชื้อ ควรคำนึงถึงเรื่องเศรษฐกิจและปากท้องของผู้ค้าขายมากกว่า ที่สำคัญต้องพิจารณาให้รอบด้านว่าควรสั่งปิดตลาดหรือไม่”ผู้จัดการตลาดอ่อนนุช กล่าว
นางสาวกิ่งกร นรินทรกุล ณ อยุธยา ผู้ประสานงานเครือข่ายกินเปลี่ยนโลก กล่าวว่า การสั่งปิดตลาด มีผลกระทบวงกว้าง ชาวตลาดที่ยึดอาชีพค้าขายเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะมีรายได้เป็นรายวัน เมื่อหยุดขายรายได้ก็หยุดไปด้วย หลายคนจึงหาทางออกด้วยการขายริมฟุตบาทแทน เสียงสะท้อนจากคนทำอาชีพค้าขายหลายคน มองว่ารัฐแก้ปัญหาไม่ตรงจุด สั่งปิดตลาด แต่ห้างกลับเปิด แสดงถึงความเหลื่อมล้ำเลือกปฏิบัติอย่างชัดเจน ทั้งนี้หลายตลาดพยายามจัดการตนเอง ควบคุมทางเข้าออก ตั้งจุดคัดกรองวัดอุณหภูมิ เพื่อรักษาระดับมาตรฐานและรักษาการประกอบอาชีพที่เป็นรายได้หลักไว้ เพราะมองว่าการควบคุมการระบาดของโรค ควบคุมผู้ค้าและผู้ซื้อง่ายกว่า เช่น ทำตามมาตรการของรัฐ สวมหน้ากากอนามัย มีฉากปิดกั้น ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ เป็นต้น วิธีดังกล่าวสามารถควบคุมการแพร่ระบาดและจำกัดปริมาณผู้ใช้บริการได้ แต่ทำไมบางจังหวัดถึงสั่งปิดตลาด ทั้งที่ทุกพื้นที่มีความเสี่ยงเหมือนกัน
“รัฐต้องให้ความเท่าเทียมกันระหว่างตลาดกับห้าง ควรมีมาตรการส่งเสริมมากกว่าบังคับ ตลาดไหนที่มีความสามารถในการจัดการควบคุมโรคระบาดได้อย่างเพียงพอ ไม่ควรสั่งปิด ถ้าสั่งปิดต้องมีเกณฑ์มาตรฐานที่ชัดเจนต่อสาธารณะ อย่างไรก็ตามตลาดคือท่อน้ำเลี้ยงสำคัญของคนจำนวนมาก รัฐควรใช้โอกาสนี้เพื่อยกระดับคุณภาพของตลาดมากกว่าสั่งปิด”นางสาวกิ่งกร กล่าว
////////////////////////////////////////


"ข่าวประชาสัมพันธ์ ทันทุกกระแส" กับ @PRNewsThailand

เพิ่มเพื่อน
พื้นที่โฆษณา

แสดงความคิดเห็น

พื้นที่โฆษณา
คำค้นแนะนำ
Link

ข่าวประชาสัมพันธ์

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์

รับทำเว็บไซต์

รับทำเว็บไซต์โรงแรม

เว็บเซลเพจ

เว็บเซลเพจโรงแรม

โรงแรมนครศรีธรรมราช

นครศรีธรรมราช

รวมโรงแรมนครศรีธรรมราช

ผู้หญิง

เว็บไซต์ผู้หญิง

โปรโมชั่น

ความงาม

แฟชั่น

สุขภาพ

ไลฟ์สไตล์

สลากกินแบ่งรัฐบาล

ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล

หวย

ตรวจหวย

ลอตเตอรี่

เรียงเบอร์

รวมข่าวประชาสัมพันธ์

วงล้อนำโชค

สุ่มเลขนำโชค

ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์

ท้าวเวสสุวรรณ

หวยงวดนี้

เลขเด่นนำโชค

พระพิฆเนศ

นิวส์ไวร์

newswire

ไทยนิวส์ไวร์

thainewswire

จองตั๋วรถทัวร์

จองตั๋วรถทัวร์ออนไลน์

รีสอร์ทตราด

ตราดรีสอร์ท

โรงแรมตราด

Resort Trat

Trat Resort

ดูดวงไพ่ทาโรต์

ดูดวงไพ่ยิปซี

ดูดวงฟรี

ดูดวงออนไลน์

ดูดวงทั่วไป

ดูดวงการงาน

ดูดวงการเงิน

ดูดวงความรัก

ดูดวงสุขภาพ

ดูดวงการศึกษา

พื้นที่โฆษณา