รอสักครู่...

  • น.
พื้นที่โฆษณา

ข่าวธุรกิจ, สังคม

ข่าวธุรกิจ, สังคม - ปตท. เผยผลการดำเนินงานไตรมาส 4 ปี 2563 ฟื้นตัว สนับสนุนจ้างงาน 25,000 อัตรา เตรียมลงทุนกลุ่ม ปตท. 5


ชอบข่าวนี้?
พื้นที่โฆษณา

ผลการดำเนินงาน ปตท. ไตรมาส4ปี63ฟื้นตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า มุ่งต่อยอดธุรกิจหลัก ก้าวสู่ธุรกิจใหม่ รุก “Clean Energy” (พลังงานสะอาด) และ “Life Science” (วิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต) พร้อมเตรียมงบลงทุน 5ปี กลุ่ม ปตท. กว่า 8 แสนล้านบาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.)แถลงผลประกอบการของไตรมาส4ปี2563(4Q2563) และปี2563โดยใน4Q2563ปตท. และบริษัทย่อยมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย ต้นทุนทางการเงิน และภาษีเงินได้ (EBITDA) จำนวน71,614ล้านบาท เพิ่มขึ้น4,149ล้านบาท หรือร้อยละ6.1ในไตรมาสก่อนหน้าโดยหลักจากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นโดยเฉพาะธุรกิจปิโตรเคมีที่ได้รับแรงสนับสนุนจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นตามสภาพเศรษฐกิจโดยรวมที่ฟื้นตัวขึ้นและนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของหลายประเทศ รวมถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญในด้านสุขอนามัย การทำงานที่บ้าน และการเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวกลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติมีผลการดำเนินงานดีขึ้นจากธุรกิจโรงแยกก๊าซธรรมชาติ ตามต้นทุนเนื้อก๊าซฯ ที่ปรับลดลง และราคาขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นทุกผลิตภัณฑ์ตามราคาปิโตรเคมีอ้างอิงในตลาดโลก ในส่วนของผลการดำเนินงานของธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมปรับลดลงตามราคาขายเฉลี่ยที่ลดลง แม้ปริมาณขายจะปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งนี้กำไรสุทธิของ ปตท. และบริษัทย่อย ใน4Q2563มีกำไรสุทธิ จำนวน13,147ล้านบาท ลดลง973ล้านบาท หรือร้อยละ6.9จากไตรมาสก่อนหน้า

สำหรับผลการดำเนินงานของปี2563ปตท. และบริษัทย่อยมีEBITDAจำนวน225,672ล้านบาท ลดลง63,300ล้านบาท หรือร้อยละ21.9ในปี2562โดยหลักจากธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมที่ผลการดำเนินงานปรับลดลงตามราคาขายเฉลี่ยที่ลดลง ประกอบกับผลการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นที่ลดลงอย่างมาก โดยหลักจากการขาดทุนของค่าการกลั่นรวมผลกระทบจากสต๊อกน้ำมันในปี2563ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลงอย่างมากจาก ณ สิ้นปี2562ที่67.3เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่51.1เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ณ สิ้นปี2563นอกจากนี้กลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติมีผลการดำเนินงานลดลง โดยหลักจากธุรกิจโรงแยกก๊าซฯ เนื่องจากราคาขายที่ลดลงตามราคาปิโตรเคมีอ้างอิงในตลาดโลกปรับลดลงและปริมาณขายที่ลดลงจากผลกระทบCOVID-19และตามการปิดซ่อมบำรุงและปรับลดกำลังการผลิตให้เหมาะสมตามอุปสงค์ของลูกค้าในปี2563อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานของกลุ่มเทคโนโลยีและวิศวกรรมปรับตัวดีขึ้นจากการเข้าซื้อGLOWของGPSCในช่วงปลายไตรมาส1ปี2562ส่งผลให้ปตท. และบริษัทย่อยในปี2563มีกำไรสุทธิ จำนวน37,766ล้านบาท ลดลง55,185ล้านบาท หรือร้อยละ59.4จาก ในปี2562

ในส่วนของแผนวิสาหกิจ5ปี (พ.ศ.2564-2568) กลุ่ม ปตท. เตรียมแผนลงทุนในวงเงินรวม850,573ล้านบาท(ไม่รวมโครงการที่กำลังอยู่ระหว่างการลงทุนหรือแสวงหาโอกาสในการลงทุน) เพื่อลงทุนในธุรกิจหลักเช่น โรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่7เพื่อทดแทนโรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่1 โครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบกเส้นที่5การขยายขีดความสามารถของLNG Receiving Terminalแห่งที่2(หนองแฟบ) และโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่3นอกจากนี้ ยังได้จัดเตรียมงบลงทุนในอนาคต (Provisional Capital Expenditure) ในระยะ5ปีข้างหน้า จำนวน804,202ล้านบาทเพื่อการขยายการลงทุนธุรกิจก๊าซธรรมชาติเหลวครบวงจร (LNG Value Chain) ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และการเชื่อมต่อระหว่างธุรกิจก๊าซธรรมชาติสู่ธุรกิจผลิตไฟฟ้า (Gas-to-Power) ห่วงโซ่ธุรกิจพลังงานไฟฟ้า (Electricity Value Chain) ธุรกิจพลังงานหมุนเวียนและเทคโนโลยีด้านพลังงาน เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมถึงการมุ่งสู่ธุรกิจใหม่ในกลุ่มLife scienceเพื่อความมั่นคงด้านสุขภาพของคนไทย โดยการจัดตั้งบริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด เมื่อวันที่ 18พฤศจิกายน2563 ตามกลยุทธ์การบริหารจัดการด้านความยั่งยืนใน3มิติ คือ สิ่งแวดล้อม (Environmental) สังคม (Social) และการกำกับดูแล (Governance) เพื่อสร้างความสมดุลในการตอบสนองต่อความต้องการและความคาดหวังของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างเป็นรูปธรรม

ตลอดปี2563ที่ผ่านมา กลุ่ม ปตท. ร่วมเคียงข้างคนไทย ให้ก้าวผ่านสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสCOVID-19เดินหน้าโครงการRestart Thailandเพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ และสร้างทักษะอาชีพ ผ่านการจ้างแรงงาน พนักงาน และนักศึกษาระดับ ปวช.- ปริญญาตรีในทุกภูมิภาค รวมกว่า25,000อัตรา และสนับสนุนงบประมาณ851ล้านบาท เพื่อจัดหาและแจกจ่ายเจลแอลกอฮอล์ พัฒนาชุดตรวจคัดกรองCOVID-19สนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ สนับสนุนผลิตภัณฑ์ของกลุ่ม ปตท. เพื่อเป็นกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ เป็นต้น

นอกจากนี้ ได้มีการทบทวนค่าเป้าหมายระยะยาวของการควบคุมปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของกลุ่ม ปตท. ในปี2573โดยลดการปล่อยจากร้อยละ20เป็นร้อยละ27เทียบกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินงานตามปกติ รวมถึงมีการนำกลไกราคาคาร์บอนประกอบการพิจารณาการลงทุนในโครงการที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในการดำเนินธุรกิจของ ปตท. ทั้งทางตรงและทางอ้อม (GHG Scope1 และ 2) อีกด้วย

ผลจากการดำเนินงานที่ผ่านมา ทำให้ ปตท. ได้รับการยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ การได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิกในดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability IndicesหรือDJSI) ประจำปี2563ต่อเนื่องเป็นปีที่9ในกลุ่มดัชนีโลก (World Index) และดัชนีตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market Index) โดยได้คะแนนสูงสุดเป็นผู้นำในกลุ่มอุตสาหกรรมOil & Gas Upstream & Integrated รางวัลบริษัทจดทะเบียนด้านนักลงทุนสัมพันธ์ยอดเยี่ยม (Best Investor Relations Awards)จากงาน “SET Awards 2020” ซึ่งนับเป็นครั้งที่2ติดต่อกัน และยังได้รับการคัดเลือกให้อยู่ในรายชื่อ“หุ้นยั่งยืน” หรือThailandSustainability Investment(THSI)ประจำปี2563รางวัลองค์กรที่มีความเป็นเลิศทางด้านการบริหารจัดการ ในงานThailand Corporate Excellence Awards2020 และ รางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น (SOE Award) ประจำปี2563นอกจากนี้ ล่าสุดกลุ่ม ปตท. ได้มีบริษัทเรือธงใหม่ด้านน้ำมันและการค้าปลีก คือ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) ซึ่งเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนในประเทศ

#สานพลังใจWeFightTogether


"ข่าวประชาสัมพันธ์ ทันทุกกระแส" กับ @PRNewsThailand

เพิ่มเพื่อน
พื้นที่โฆษณา

แสดงความคิดเห็น

พื้นที่โฆษณา
คำค้นแนะนำ
Link
พื้นที่โฆษณา