ปักกิ่ง, 17 ธันวาคม 2568 /PRNewswire/ -- เฉวียนโจว เมืองมรดกโลกในมณฑลฝูเจี้ยนทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีน ซึ่งครั้งหนึ่งเคยได้รับการยกย่องจาก Marco Polo ในฐานะ "ท่าเรือตะวันออกอันยิ่งใหญ่" ที่คราคร่ำไปด้วยพ่อค้าและสินค้า ปัจจุบันยังคงดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยมรดกทางวัฒนธรรมซึ่งยังมีชีวิต ท้องถนนเปี่ยมชีวา และความเปิดกว้างอย่างยั่งยืน

ในปี 2567 เฉวียนโจวต้อนรับนักท่องเที่ยวกว่า 100 ล้านคน เพิ่มขึ้น 16.8 เปอร์เซ็นต์เทียบรายปี โดยพวกเขาไม่ได้มาเพื่อสืบหาประวัติศาสตร์เท่านั้น แต่ยังมาเพื่อสัมผัสเมืองที่ชีวิตประจำวันและมรดกทางวัฒนธรรมยังคงผสานกันอย่างแน่นแฟ้น

อาหารของเฉวียนโจวสะท้อนทั้งประเพณีทางทะเลและขนบธรรมเนียมพื้นบ้าน ตั้งแต่วุ้นทูซุนที่ทำจากหนอนทะเลชายฝั่ง ไปจนถึงปอเปี๊ยะซึ่งปรุงสำหรับเทศกาลที่เรียกว่ารุนปิง

เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม เมืองนี้ได้รับการกำหนดให้เป็น "เมืองสร้างสรรค์ด้านอาหาร" โดยองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO)

เมืองโบราณของเฉวียนโจวซึ่งมีพื้นที่ประมาณหกตารางกิโลเมตรยังคงเป็นบ้านของผู้อยู่อาศัยมาหลายชั่วอายุคน หน่วยงานท้องถิ่นได้นำแนวทาง "การปรับปรุงขนาดเล็ก" มาใช้ โดยอนุรักษ์ย่านดั้งเดิมไว้ ในขณะเดียวกันก็พัฒนาสภาพความเป็นอยู่และการเข้าถึงของนักท่องเที่ยว

มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้เป็นอีกหนึ่งจุดเด่น เฉวียนโจวได้รับการยกย่องว่าเป็นแหล่งกำเนิดของงิ้วจีนดั้งเดิม อาทิ งิ้วหลี่หยวน งิ้วเกาเจีย และละครหุ่นสาย การแสดงที่โรงละครหุ่นสายของเฉวียนโจวมักจะขายบัตรหมดภายในไม่กี่นาที โดยดึงดูดผู้ชมจากทั่วประเทศ นักแสดงรุ่นใหม่จำนวนมากเข้าร่วมในคณะ ทำให้ศิลปะเหล่านี้มีชีวิตชีวา

ในหมู่บ้านซุนปู่ ประเพณีการสวมเครื่องประดับศีรษะดอกไม้อันประณีตซึ่งเคยเป็นประเพณีท้องถิ่นได้แพร่หลายไปทั่วประเทศ ในขณะที่บ้านเปลือกหอยนางรมเป็นหลักฐานยืนยันถึงการค้าต่างประเทศซึ่งมีมานานหลายศตวรรษ

ปัจจุบัน เฉวียนโจวเป็นแหล่งรวมพ่อค้าต่างชาติหลายพันรายที่ประกอบธุรกิจสิ่งทอ การค้า และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ด้วยบริการหลายภาษาซึ่งพัฒนาขึ้นและการอำนวยความสะดวกด้านวีซ่า เมืองนี้จึงต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมฟื้นฟูบทบาทในฐานะท่าเรือแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระดับโลก

ลิงก์ต้นฉบับ: https://en.imsilkroad.com/p/348816.html