ซิชั่น พีอาร์ นิวส์ไวร์ - รายงานใหม่จาก GSMA ชี้ชัด เครือข่าย 6G ต้องใช้สเปกตรัมมากกว่าปัจจุบันถึง 3 เท่า เพื่อรองรับความต้องการข้อมูลมหาศาล
![]() |
ภาครัฐต้องเร่งตัดสินใจเพื่อเลี่ยงปัญหาสเปกตรัม 'คอขวด' เพื่อให้ผู้บริโภคและภาคธุรกิจหลายพันล้านรายได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ในยุค 6G
ลอนดอน, 21 พฤศจิกายน 2568 /PRNewswire/ -- GSMA ซึ่งเป็นตัวแทนอุตสาหกรรมเครือข่ายเคลื่อนที่ทั่วโลก ได้เผยแพร่บทวิเคราะห์ฉบับใหม่ในวันนี้ โดยระบุว่า เครือข่าย 6G ในยุคหน้า จำเป็นต้องใช้สเปกตรัมย่านความถี่กลางมากกว่าที่ใช้ในปัจจุบันถึง 3 เท่า เพื่อรองรับข้อมูล บริการที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี AI และแอปพลิเคชันดิจิทัลขั้นสูงต่าง ๆ ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการเพิ่มขึ้นอย่างมาก
รายงาน Vision 2040: Spectrum for the Future of Mobile Connectivity ซึ่งประเมินความต้องการสเปกตรัมสำหรับยุค '6G' ในภาพรวมทั่วโลก สรุปว่า ในช่วงปี 2578–2583 ความต้องการสเปกตรัมย่านความถี่กลางจะอยู่ที่เฉลี่ย 2–3 GHz ในแต่ละประเทศ เพื่อให้เพียงพอต่อขีดความสามารถของเครือข่ายเคลื่อนที่ในเขตเมืองที่มีความต้องการใช้งานสูงสุด ขณะที่ประเทศที่มีความต้องการสูงอาจต้องการมากถึง 2.5–4 GHz
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแนวทางแก่หน่วยงานกำกับดูแลและผู้กำหนดนโยบาย ขณะที่อุตสาหกรรมเครือข่ายเคลื่อนที่เตรียมพร้อมวางระบบ 6G ในวงกว้างตั้งแต่ปี 2573 ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เมื่อรัฐบาลทั่วโลกกำลังเจรจาเรื่องย่านความถี่เครือข่ายเคลื่อนที่ในอนาคต ก่อนการประชุมสนธิสัญญาสำคัญอย่าง WRC-27 ซึ่งสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศเตรียมจัดในอีก 2 ปีข้างหน้านี้
รายงานฉบับนี้เตือนว่า นานาประเทศต้องเร่งดำเนินการตั้งแต่ตอนนี้ เพื่อจัดสรรสเปกตรัมให้เพียงพอสำหรับ 6G มิฉะนั้นอาจเสี่ยงเกิดปัญหาความเร็วลดลง เครือข่ายแออัดมากขึ้น และสูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจในช่วงคริสต์ทศวรรษ 2030 หากรัฐบาลไม่มีการวางแผนตั้งแต่เนิ่น ๆ แล้ว ผู้บริโภคอาจได้รับประสบการณ์การเชื่อมต่อที่แย่ลง ภาคธุรกิจอาจประสบปัญหาในการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาประยุกต์ใช้ และเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศอาจสูญเสียความสามารถทางการแข่งขันในการเปลี่ยนผ่านสู่ 6G ในระดับโลก
คุณ John Giusti ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกำกับดูแลของ GSMA กล่าวว่า
"การศึกษานี้แสดงให้เห็นว่า ในยุค 6G เราจะต้องการสเปกตรัมย่านความถี่กลางเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าของที่มีอยู่ในปัจจุบัน การตอบสนองความต้องการสเปกตรัมเหล่านี้ จะเป็นรากฐานสำคัญเพื่อสนับสนุนการเชื่อมต่อที่แข็งแกร่งและยั่งยืน บรรลุวิสัยทัศน์ด้านดิจิทัล และช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตได้ ผมหวังว่ารายงานนี้จะให้ข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์แก่รัฐบาลต่าง ๆ ในการตอบโจทย์ความต้องการด้านการเชื่อมต่อของพลเมืองในทศวรรษที่จะมาถึงนี้"
ภายในปี 2583 รายงานฉบับนี้คาดการณ์ว่า
- การเชื่อมต่อ 6G จะมีมากกว่า 5 พันล้านครั้ง คิดเป็นประมาณครึ่งหนึ่งของการเชื่อมต่อเครือข่ายเคลื่อนที่ทั้งหมดทั่วโลก
- เครือข่าย 4G และ 5G จะยังคงมีความสำคัญ โดยคาดว่าจะยังคงมีผู้ใช้งาน 4G ประมาณ 2 พันล้านครั้ง และ 5G ประมาณ 3 พันล้านครั้ง
- ปริมาณการใช้งานข้อมูลเครือข่ายเคลื่อนที่ทั่วโลก คาดว่าจะสูงถึงเดือนละ 3,900 เอ็กซะไบต์ ภายในปี 2583
- เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเครือข่ายแออัด จำเป็นต้องมีสเปกตรัมย่านความถี่กลางโดยเฉลี่ย 2–3 GHz ทั่วโลกในช่วงปี 2578–2583 โดยต้องจัดสรรให้ได้ 2GHz ภายในปี 2573
โลโก้: https://mma.prnasia.com/media2/1882833/5634834/GSMA_Logo.jpg?p=medium600



ภาษาไทย
English