ซิชั่น พีอาร์ นิวส์ไวร์ - HUBLOT และ DANIEL ARSHAM เปิดตัว MP-17 ARSHAM SPLASH: การพัฒนาที่ลื่นไหลของศิลปะการประดิษฐ์นาฬิกา
![]() |
สิงคโปร์, 9 ตุลาคม 2568 /PRNewswire/ -- Hublot แบรนด์นาฬิกาหรูสัญชาติสวิสผู้บุกเบิกวงการ ประกาศการร่วมมือครั้งล่าสุดกับศิลปินชาวอเมริกันและแอมบาสเดอร์ของ Hublot ได้แก่ Daniel Arsham กับนาฬิการุ่น Hublot MP-17 MECA-10 Arsham Splash Titanium Sapphire
หลังจากความสำเร็จของนาฬิกาพกปรับเปลี่ยนได้ MP-16 Arsham Droplet นาฬิการุ่นใหม่นี้ก็ได้เขียนกฎการออกแบบนาฬิกาใหม่อีกครั้ง โดยได้รับแรงบันดาลใจจากการเคลื่อนไหวของน้ำ รูปทรงจากธรรมชาติ และความโปร่งใส

Hublot introduces the new MP-17 Meca-10 Arsham Splash Titanium Sapphire
MP-17 Meca-10 Arsham Splash Titanium Sapphire เป็นการผสมผสานอย่างสมบูรณ์แบบระหว่าง Art of Fusion (ศิลปะแห่งการผสมผสาน) ของ Hublot และวิสัยทัศน์ศิลปะโบราณคดีจำลอง ของ Arsham ซึ่งเขาได้จินตนาการวัตถุร่วมสมัยให้กลายเป็นวัตถุโบราณ พร่าเลือนเส้นแบ่งระหว่างอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
นี่เป็นการออกแบบนาฬิกาข้อมือชิ้นแรกของ Arsham กับ Hublot ตัวนาฬิกาเหมือนประติมากรรมที่สวมใส่ได้ โดยสะท้อนแนวทางสร้างสรรค์ของ Arsham ผ่านทุกเส้นโค้งที่ลื่นไหล ตัวเรือนขนาดกะทัดรัด 42 มม. ทำขึ้นได้ด้วยการบูรณาการกลไก Meca-10 ใหม่ขนาดเล็กแบบขึ้นลานด้วยมือของ Hublot ที่สามารถมองเห็นผ่านช่องเปิดบนหน้าปัดและฝาหลังแบบแซฟไฟร์
การเลือกใช้คริสตัลแซฟไฟร์สำหรับขอบหน้าปัดเนื้อขุ่นทรงกล่อง ไทเทเนียม และยาง เป็นการสะท้อนแก่นแท้ของ Art of Fusion พร้อมให้พื้นฐานที่เหมาะสมอย่างยิ่งในการสร้างรูปทรงจากธรรมชาติของนาฬิกา ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากการไหลของน้ำ จุดเด่นคือ ช่องเปิดรูปน้ำกระเซ็นบนหน้าปัด ซึ่งเป็นวิวัฒนาการโดยตรงจากแรงบันดาลใจหยดน้ำของ MP-16
มุมมองของ Arsham ต่อเวลาเป็นหัวใจหลักของแนวคิดการออกแบบ ใน TED Talk ปี 2559 เขาอธิบายว่า "งานของผมมีเนื้อหาเกี่ยวกับการล่มสลายของเวลา คุณไม่แน่ใจว่านี่คือวัตถุจากอดีตหรืออนาคต" ในขณะที่ MP-16 Arsham Droplet ถ่ายทอดแนวคิดนี้ผ่านรูปทรง รุ่นใหม่ MP-17 Meca-10 Arsham Splash Titanium Sapphire นี้เน้นให้เห็นว่ากาลเวลาทิ้งร่องรอยอย่างไร ด้วยเส้นสายตัวเรือนที่ลื่นไหล ช่องเปิดรูปน้ำกระเซ็นบนหน้าปัด และชิ้นส่วนแซฟไฟร์โปร่งใส นาฬิกานี้ผสานวิสัยทัศน์ศิลปะของ Arsham กับกลไก Meca-10 ของ Hublot ให้ทั้งคอนเซ็ปต์และสมรรถนะในดีไซน์ที่สวมใส่ได้
เมื่อมองเผิน ๆ นาฬิกาดูเหมือนเบี่ยงเบนจากรูปแบบของ Hublot ที่คุ้นเคย แต่เมื่อสังเกตรายละเอียด จะพบองค์ประกอบสำคัญทั้งหมด เช่น สกรูรูปตัว H จำนวน 6 ตัวบนขอบหน้าปัดและฝาหลัง ตัวล็อกที่โดดเด่นที่ตำแหน่ง 3 และ 9 นาฬิกา และตัวล็อกพับไทเทเนียมรูปตัว H ขณะที่สีเขียว Arsham ปรากฏอยู่บนเข็มชั่วโมงและนาที ตัวเลข จุดบอกชั่วโมงและห้านาที เข็มวินาทีเล็กที่ 9 นาฬิกา และตัวชี้พลังงานสำรองที่ 3 นาฬิกา
Hublot MP-17 Meca-10 Arsham Splash Titanium Sapphire ไม่ใช่แค่เครื่องบอกเวลา แต่เป็นการผสมผสานระหว่างการประดิษฐ์นาฬิกาชั้นสูงและศิลปะร่วมสมัย ปรับเปลี่ยนวัสดุและรูปทรงแบบดั้งเดิม เชื้อเชิญนักสะสมและผู้หลงใหลในศิลปะมาสัมผัสกับเวลาในมุมมองอันลื่นไหลเฉพาะตัวของ Daniel Arsham
"การทำงานกับคุณ Daniel Arsham คือการค้นพบการออกแบบและการรับรู้ใหม่ ๆ" คุณ Julien Tornare ซีอีโอของ Hublot กล่าว "MP-17 Meca-10 Arsham Splash Titanium Sapphire เป็นบทถัดไปของความร่วมมือกับศิลปินและแอมบาสเดอร์ของเรา คุณ Daniel Arsham โดยเป็นบทพิสูจน์ของ Art of Fusion ของ Hublot ที่ผสานนาฬิกาชั้นสูงและศิลปะอย่างลงตัว สร้างนาฬิกาที่สวยงามและผลักขยายขอบเขตนวัตกรรม เชิญให้เราเห็นเวลาในมุมใหม่ผ่านวิสัยทัศน์อันลื่นไหลของคุณ Arsham"
คุณ Daniel Arsham กล่าวเสริมว่า "ความร่วมมือนี้กับ Hublot สำรวจความลื่นไหลของเวลา ผ่านตัวเรือนที่ได้แรงบันดาลใจจากรูปทรงสมบูรณ์แบบของหยดน้ำ ผลิตด้วยกลไก Meca-10 ของ Hublot โครงสร้างโปร่งใสของนาฬิกาถ่ายทอดความชัดเจนและการเคลื่อนไหวของน้ำ สะกดเวลาอย่างแม่นยำและลื่นไหลอยู่เสมอ"
นาฬิกา Hublot MP-17 Meca-10 Arsham Splash Titanium Sapphire ผลิตจำกัดเพียง 99 เรือน มีวางจำหน่ายที่บูติก Hublot และผู้จัดจำหน่ายที่ได้รับอนุญาต
รับชมวิดีโอได้ที่นี่: https://youtu.be/2mJljSSbdqM
เกี่ยวกับ Hublot
ในปี 2523 Hublot ได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งแรกของโลก ด้วยการนำตัวเรือนทองมาจับคู่กับสายยาง พลิกโฉมวงการนาฬิกาหรูอย่างสิ้นเชิง ชื่อ Hublot ถือกำเนิดขึ้นจากขอบตัวเรือนทรงช่องหน้าต่างเรือ พร้อมสกรูเปลือยที่เป็นเอกลักษณ์ และพร้อมกันนั้น แนวคิด Art of Fusion (ศิลปะแห่งการผสมผสาน) ก็ถือกำเนิดขึ้นด้วย
ปี 2548 Hublot ยกระดับความคิดสร้างสรรค์ขึ้นอีกขั้นด้วย Big Bang ซึ่งโดดเด่นด้วยดีไซน์อันเป็นสัญลักษณ์ ขนาด และโครงสร้างตัวเรือนแบบซ้อนชั้น ในปีเดียวกัน Hublot ได้รับรางวัล Best Design (ออกแบบยอดเยี่ยม) จากงาน Grand Prix d'Horlogerie de Genève และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ด้วยวิสัยทัศน์ปฏิวัติวงการ Big Bang ไม่เคยหยุดนิ่งในการสร้างสรรค์และพลิกโฉมตนเอง ศตวรรษที่ 21 จึงได้กำเนิดนาฬิกาไอคอนเรือนแรก
แนวคิดการผสมผสานเป็นหลักการนำทางในทุกคอลเล็กชัน รุ่น Big Bang ได้ปรับรูปทรงแห่งเวลาใหม่หมดสิ้น ขณะที่ Classic Fusion ผสมผสานความกล้าและความละเมียดอย่างลงตัว ส่วน Exceptional Timepieces ก้าวข้ามทุกความคาดหมาย สร้างวัตถุแห่งศาสตร์นาฬิกาที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ด้วยแนวทางอันกล้าที่จะท้าทายธรรมเนียม ดีเอ็นเอของ Hublot จึงถ่ายทอดลงในกลไกที่เป็นของแบรนด์เองอย่าง Unico, Meca-10 และ Tourbillon เติมความหมายอีกชั้นให้กับ Art of Fusion
ศาสตร์แห่งการผสมผสานหล่อหลอมอยู่ใน Hublot ไม่เพียงแค่ที่ La Manufacture หรือการผลิตเท่านั้น แต่ยังเกิดขึ้นบนสนามฟุตบอล ผ่านการเป็นพันธมิตรกับมหาอีเวนต์ (UEFA Champions League และ UEFA Euro™) หรือจะเกิดขึ้นในคอนเสิร์ต เกมบาสเกตบอล การแสดงศิลปะ หรือแม้แต่ประสบการณ์ด้านอาหารสุดพิเศษกับเชฟมิชลินสตาร์ในครอบครัว Hublot และเช่นนั้น 'Hublot Vibes' จึงเกิดขึ้น ผ่านช่วงเวลาแห่งความปลื้มปิติที่แบ่งปันร่วมกันในหมู่ Hublotistas ชุมชนของผู้ครอบครอง Hublot ผู้ภาคภูมิใจ 'ศิลปะแห่งการผสาน' ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงสิ่งที่มองเห็น แต่คือวิถีชีวิต วิถีแห่ง Hublot ที่เป็นเอกลักษณ์
ครบรอบ 20 ปี Big Bang การเฉลิมฉลองจิตวิญญาณแห่งการท้าทายขนบ
ในปี 2548 Big Bang ได้ประกาศการมาถึงของยุคใหม่ในโลกแห่งการประดิษฐ์นาฬิกา สะท้อนความคู่ควรอันพิเศษกับชื่อของรุ่นได้อย่างเต็มภาคภูมิ มีเพียงไม่กี่เรือนเท่านั้นที่สามารถพลิกโฉมการสร้างสรรค์นาฬิกาสมัยใหม่ได้ดุจเช่น Big Bang สองทศวรรษหลังการเปิดตัว นาฬิกานี้ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของโรงงานผู้ผลิตที่ไม่หยุดยั้งในการผลักขยายพรมแดนของสิ่งที่ไม่รู้จัก ด้วยวัสดุล้ำพิเศษและกลไกของแบรนด์เองที่นำโดย Unico และ Meca-10 Big Bang ยังคงปฏิเสธการเดินตามขนบ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยโอบรับอย่าสิ้นเชิงตั้งแต่แรก อีกทั้งยังโดดเด่นในความงดงามอันกล้าหาญ และหลากหลายด้วยความสามารถในความอเนกประสงค์ นี่คือ Big Bang อย่างแท้จริง
เกี่ยวกับ Daniel Arsham
Daniel Arsham เป็นศิลปินจากนิวยอร์กที่ทำงานครอบคลุมด้านวิจิตรศิลป์ สถาปัตยกรรม การแสดง และภาพยนตร์ ผลงานที่โดดเด่นระดับไอคอนิกของเขาผสานอดีต ปัจจุบัน และอนาคต แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นและพลังของความหวนคิดถึงวันวาน โดยมักอ้างอิงถึงเหตุการณ์ในปลายศตวรรษที่ 20 Arsham ยังร่วมงานกับหลายอุตสาหกรรม นำงานศิลปะอันเป็นเอกลักษณ์ของเขาไปสู่ผู้คนทั่วโลก
MP-17 MECA-10 ARSHAM SPLASH TITANIUM SAPPHIRE
อ้างอิง |
ตัวเรือน |
ตัวเรือน-ด้านหลัง |
ขอบหน้าปัด |
|
917.NJ.6909.RX
MP-17 MECA-10 ARSHAMSPLASH TITANIUMSAPPHIRE
จำกัด 99 เรือน |
ไทเทเนียม ขัดเงาและพ่นทรายไมโคร
กระจก: แซฟไฟร์คริสตัล พร้อมการเคลือบลดแสงสะท้อน
ขนาด: 42 มม. ความหนา: 15.35 มม. การกันน้ำ: 50 เมตร |
ไทเทเนียมขัดเงาและพ่นทรายไมโคร
|
แซฟไฟร์คริสตัล ขัดเงาและสลักลวดลายด้วยเลเซอร์
สกรู: ไทเทเนียมรูปตัว H จำนวน 6 ตัว
|
|
หน้าปัด |
กลไกการเดิน |
สายและข้อเกี่ยว |
ราคา |
|
เคลือบโรเดียม ขัดเงาและพ่นทรายไมโคร พร้อม Superluminova สีเขียวแบบ Arsham
|
HUB1205 ขึ้นลานด้วยมือ แบบสเกเลตัน พร้อมตัวบอกพลังงานสำรอง เคลือบ PVD สีเทา
ความหนา 6.8 มม. เส้นผ่านศูนย์กลาง 33.50
ความถี่ (HZ): 3 (21'600 A/H) พลังงานสำรอง: 240 ชั่วโมง จำนวนชิ้นส่วน: 264 อัญมณี: 29 |
สายยางสีดำ ลายเกรน Charmille ประดับด้วย Monogram ของ Arsham
ข้อเกี่ยวไทเทเนียมแบบพับ (Deployant Buckle)
|
CHF 60'000 EUR 69'000 USD 69'000 GBP 57'000 |
HUBLOT: www.hublot.com
รูปภาพ - https://mma.prnasia.com/media2/2791678/Hublot.jpg?p=medium600
โลโก้ - https://mma.prnasia.com/media2/1920991/5552274/Hublot_Logo.jpg?p=medium600