ซิชั่น พีอาร์ นิวส์ไวร์ - รายงานความเป็นกลางทางคาร์บอนโลก ประจำปี 2568 ชี้ช่องว่างในการปฏิบัติจริง บนเวทีมหาวิทยาลัยชิงหวา
ปักกิ่ง, 28 ก.ย. 2568 /PRNewswire/ -- วันนี้ ณ มหาวิทยาลัยชิงหวา ผู้เชี่ยวชาญและผู้กำหนดนโยบายทั่วโลกได้มารวมตัวกันเพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหาท้าทายที่สำคัญเร่งด่วน นั่นคือช่องว่างที่ขยายตัวระหว่างคำมั่นสัญญาด้านสภาพภูมิอากาศกับความคืบหน้าจริงที่เกิดขึ้น การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นในวาระครบรอบ 10 ปีของความตกลงปารีส โดยมีไฮไลต์อยู่ที่การเปิดตัวรายงานความก้าวหน้ารายปีว่าด้วยความเป็นกลางทางคาร์บอนโลก ประจำปี 2568 ซึ่งเป็นการศึกษาที่ครอบคลุมเรื่องการเปลี่ยนผ่านด้านสภาพภูมิอากาศทั่วโลก
การประชุมครั้งนี้มีหัวข้อหลักว่า "ความก้าวหน้าระดับโลกและการปฏิบัติจริงของจีน" โดยเริ่มต้นด้วยการเสวนาพิเศษที่นำโดยคุณ Liu Yang รองอธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กระทรวงนิเวศวิทยาและสิ่งแวดล้อมของจีน ซึ่งได้สรุปความคืบหน้าล่าสุดของประเทศจีนในการบรรลุเป้าหมาย "คาร์บอนคู่ขนาน" และเป้าหมายการมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนด (NDC) ที่ประกาศใหม่ จากนั้นเป็นการนำเสนอทัศนะจากนานาชาติ ซึ่งรวมถึงการเรียกร้องให้มีการปฏิบัติการอย่างเร่งด่วนจากคุณ Patricia Espinosa Cantellano อดีตเลขาธิการบริหารของ UNFCCC
สำหรับไฮไลต์ของงานนี้อยู่ที่การเปิดตัวรายงานความก้าวหน้ารายปีฉบับที่สาม ซึ่งนำโดย ศาสตราจารย์ Wang Can แห่งมหาวิทยาลัยชิงหวา รายงานชิ้นนี้ถือเป็นการประเมินความคืบหน้าด้านสภาพภูมิอากาศโลกที่ครอบคลุมและอิงหลักวิทยาศาสตร์มากเป็นอันดับต้น ๆ ซึ่งโดดเด่นด้วยประเด็นสำคัญ ดังนี้
- ตรวจสอบ 198 ประเทศและภูมิภาค ด้วยตัวชี้วัด 217 รายการ ทั้งในด้านเทคโนโลยี การเงิน และนโยบาย
- นำแนวคิดเรื่องความเสมอภาคมาใช้ในการประเมินความเป็นธรรมของการเปลี่ยนผ่านระดับโลก
- มุ่งประเมินผลในระยะยาวอย่างต่อเนื่อง เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการกำกับดูแลสภาพภูมิอากาศโลกต่อไป
นับเป็นครั้งแรกที่รายงานฉบับนี้ได้รับคำแนะนำจากคณะกรรมการที่ปรึกษาระหว่างประเทศซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 13 ท่าน โดยมี He Kebin จากมหาวิทยาลัยชิงหวา และ Erik Solheim อดีตผู้อำนวยการบริหาร UNEP เป็นประธานร่วม ซึ่งตอกย้ำถึงการผสมผสานระหว่างความเป็นผู้นำของจีนกับมุมมองระดับโลก
รายงานประจำปีนี้ได้ชี้ชัดถึง "ความไม่สมดุลทางโครงสร้างอย่างลึกซึ้ง" โดยระบุว่า แม้ความทะเยอทะยานและนวัตกรรมจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนความก้าวหน้า แต่กลับถูกบั่นทอนอย่างรุนแรงจากปัญหาคอขวดด้านการเงินเพื่อสภาพภูมิอากาศและความร่วมมือระหว่างประเทศ ก่อให้เกิด "ช่องว่างในการปฏิบัติการ" ที่สำคัญระหว่างเป้าหมายที่ประกาศไว้กับผลลัพธ์ที่วัดผลได้จริง
ระเบียบวิธีวิจัยอันเข้มงวดในรายงานฉบับนี้ ได้รับคำยกย่องจากผู้นำด้านสภาพภูมิอากาศระดับโลก โดยคุณ Patricia Espinosa Cantellano กล่าวว่า "งานวิจัยด้านสภาพภูมิอากาศเช่นนี้ เป็นสิ่งที่ช่วยเสริมความแน่วแน่และจุดประกายความหวังให้กับพวกเรา" พร้อมเสริมว่า "สิ่งที่โดดเด่นคือ กรอบแนวคิดสี่ส่วน ได้แก่ เป้าหมาย นโยบาย การปฏิบัติ และประสิทธิผล ซึ่งเป็นการเปลี่ยนเกมในการติดตามความก้าวหน้าด้านสภาพภูมิอากาศ"
ข้อค้นพบและการเสวนาจากเวทีนี้ มีเจตนาเพื่อเป็นรากฐานทางวิทยาศาสตร์เพื่อร่างเป้าหมาย NDC ให้แข็งแกร่งขึ้น และใช้เป็นข้อมูลสำคัญในการอภิปรายครั้งใหญ่ที่การประชุม COP30 ซึ่งจะมีขึ้นที่ประเทศบราซิล งานนี้ได้ปิดท้ายลงด้วยการเรียกร้องอย่างจริงจังให้ประชาคมโลกผนึกกำลังกันอีกครั้ง เพื่อแปรเปลี่ยนคำมั่นสัญญาเป็นการปฏิบัติการที่จับต้องได้ โดยเน้นย้ำถึงแรงผลักดันที่ไม่สามารถย้อนกลับได้ในการเปลี่ยนผ่านอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับความจำเป็นเร่งด่วนในการอุดช่องว่างในการปฏิบัติการ