ฮ่องกง 5 สิงหาคม 2568 /PRNewswire/ -- ในระหว่างงาน APAN60 ที่จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 28 กรกฎาคม ถึง 1 สิงหาคม Huawei ผู้สนับสนุนหลักของงานได้จัดแสดงเทคโนโลยีดิจิทัล และการศึกษาอัจฉริยะล่าสุดในงานมหกรรมด้านการศึกษาที่มีชื่อเสียงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกนี้ โดย Huawei ยังได้จัดงาน Huawei Intelligent Education Forum ภายใต้หัวข้อ "Accelerate Education Intelligence" ซึ่งมีผู้นำจาก National Research and Education Network ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APAC) อธิการบดีมหาวิทยาลัย และผู้นำด้านไอทีกว่า 100 คนมาร่วมกันสำรวจอนาคตของการศึกษาอัจฉริยะ

Aaron Wang ผู้จัดการทั่วไปของฝ่ายธุรกิจองค์กรของ Huawei Hong Kong เป็นผู้กล่าวเปิดงานฟอรัมในครั้งนี้ โดยเขาได้กล่าวเน้นย้ำว่า "การเปลี่ยนผ่านภาคส่วนการศึกษาไปสู่ระบบดิจิทัลเป็นการเดินทางที่ต้องอาศัยความร่วมมือ ที่ซึ่งความเชี่ยวชาญระดับโลกได้มาบรรจบกับความต้องการในระดับภูมิภาคเพื่อสร้างระบบนิเวศที่ครอบคลุมและพร้อมสำหรับอนาคต พวกเราที่ Huawei เชื่อในการร่วมกันสร้างสรรค์โซลูชันที่ช่วยลดช่องว่างระหว่างนวัตกรรม และการเข้าถึงเพื่อทำให้เทคโนโลยีกลายเป็นแรงขับเคลื่อนไปสู่การศึกษาที่เท่าเทียม"

Tang Fei สมาชิกสภานิติบัญญัติ และรองประธานของ Hong Kong Federation of Education Workers กล่าวว่า "ครูในฮ่องกงกว่า 77% ได้ใช้งานเครื่องมือ AI ในการสอนแล้ว และส่วนใหญ่เชื่อว่า AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการสอน ลดภาระงาน และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของนักเรียนได้อย่างมาก แม้ว่า AI เป็นผู้ช่วยที่ทรงพลัง แต่ก็ไม่อาจมาแทนที่ครูได้ เพราะ AI ไม่สามารถสร้างแรงบันดาลใจ ให้คำชี้แนะด้านจริยธรรม และสานความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนในแบบที่คุณครูทำได้ ด้วยเหตุนี้ เราจะต้องเสริมสร้างการฝึกอบรมครู พัฒนาเครื่องมือ AI ที่สอดคล้องกับบริบทท้องถิ่น รวมถึงการส่งเสริมความรู้เท่าทันดิจิทัล และการใช้งาน AI อย่างมีความรับผิดชอบ"

Wilson Kwok ประธานคณะกรรมการจัดงาน APAN60 LOC และผู้อำนวยการ JUCC ได้กล่าวเปิดงานฟอรัมผ่านการแนะนำ JUCC และภารกิจขององค์กรในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยในฮ่องกง เขายังกล่าวเสริมอีกว่า "เป้าหมายหลักของ JUCC คือการประสานงาน และให้บริการด้านไอทีเพื่ออำนวยความสะดวกในการสอน การวิจัย และการบริการจัดการแก่สมาชิก และชุมชนด้านการศึกษาของฮ่องกง"

Peter Zhang รองประธานกลุ่มธุรกิจภาครัฐระดับโลกของ Huawei ได้กล่าวเน้นย้ำในสุนทรพจน์ของเขาว่า "Huawei มีประสบการณ์ด้าน ICT มายาวนานกว่า 30 ปี และเป็นซัพพลายเออร์เพียงรายเดียวที่มีโซลูชัน ICT แบบครบวงจร อีกทั้ง Huawei ยังได้สร้างเครือข่ายการพัฒนาบุคลากรที่มีความสามารถในทั่วโลก และสั่งสมประสบการณ์มากมายผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรของเรา Huawei พร้อมที่จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับภาคการศึกษาเพื่อสร้างระบบการพัฒนาบุคลากรด้าน ICT ที่สมบูรณ์แบบ และมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน"

Xin Yao รองประธาน (ฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม) และศาสตราจารย์เกียรติคุณด้านการเรียนรู้ของเครื่องจาก Lingnan University กล่าวว่า "Lingnan University (LU) ได้นำแนวทางแบบองค์รวม และยึดมนุษย์เป็นศูนย์กลางมาใช้กับแนวคิด AI ที่เชื่อถือได้ (TAI) ซึ่งให้ความสำคัญกับสุขภาวะของมนุษย์เป็นหัวใจหลักในการวิจัย LU เชื่อว่าเทคโนโลยีมีไว้เพื่อรับใช้สังคม และมีส่วนช่วยในการพัฒนาความเป็นอยู่ของมนุษยชาติให้ดีขึ้น โดยอาศัยรากฐานที่แข็งแกร่งด้านศิลปศาสตร์ของ LU เพื่อดำเนินความร่วมมือแบบสหวิทยาการในการวิจัย TAI"

Justin Mendes ผู้อำนวยการฝ่ายภาษาอังกฤษประยุกต์และเชิงเทคนิค และการสื่อสารข้ามวัฒนธรรมประจำสถาบัน Shenyang Institute of Technology ได้กล่าวถึงความร่วมมือกับ Huawei ว่า "Huawei และ Shenyang Institute of Technology ได้ร่วมกันบุกเบิกการบูรณาการระหว่างอุตสาหกรรม และการศึกษาผ่านการจัดตั้งวิทยาลัยอุตสาหกรรมร่วมกัน โดยมีอาจารย์มาจากสองสถาบัน (วิศวกรของ Huawei และคณาจารย์ SIT) ทั้งยังมีการฝึกอบรมภาคปฏิบัติด้วยเทคโนโลยีแบบครบวงจรของ Huawei อาทิเช่น Kunpeng, Ascend AI, 5G และ HarmonyOS ควบคู่ไปกับโมเดล DeepSeek AI อีกทั้งความร่วมมือนี้จะสร้างช่องทางการจ้างงานสำหรับบุคลากรที่มีความสามารถทั้งด้าน "วิชาชีพ + ภาษา" ซึ่งได้รับการรับรองจากอุตสาหกรรม และเปลี่ยนห้องเรียนให้กลายเป็นขุมพลังแห่งนวัตกรรมสำหรับโลกดิจิทัลอัจฉริยะที่กำลังเติบโต"

ทั้งนี้ในระหว่างการเสวนาภายใต้หัวข้อ "Sovereign AI Accelerating Intelligent Education and Research" Flora Ng ซีไอโอและบรรณารักษ์มหาวิทยาลัยประจำ The University of Hong Kong กล่าวว่า "AI ไม่ใช่แค่พลังที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงด้านการเรียน การสอน และการวิจัยเท่านั้น แต่ยังตัวกระตุ้นให้มีการคิดทบทวนกระบวนการบริหารและกลยุทธ์ของสถาบัน ซึ่งยังรวมไปถึงความสำคัญของการนำ AI มาใช้อย่างมีความรับผิดชอบและมีจริยธรรม และการสร้างระบบนิเวศความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย พันธมิตรในอุตสาหกรรมอย่าง Huawei และผู้กำหนดนโยบาย"

Roshan G. Ragel ซีอีโอที่ปรึกษา Lanka Research and Education Network (LEARN) ได้แบ่งปันความคิดเห็นของเขาว่า "Huawei Intelligent Education Forum เป็นเวทีที่ยอดเยี่ยมในการแบ่งปันเส้นทางของศรีลังกาในการสร้างระบบนิเวศการศึกษาที่ขับเคลื่อนด้วย AI อย่างครอบคลุม และมีความรับผิดชอบ นี่นับว่าเป็นเรื่องน่ายินดีที่ได้เห็นวิสัยทัศน์ของเราเป็นจริงทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งถือเป็นเครื่องยืนยันว่าอนาคตของการศึกษาอยู่ที่การเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐาน ระบบอัจฉริยะ และผู้คนเข้าด้วยกันเพื่อให้ผู้เรียนทุกคนสามารถเติบโตในโลกดิจิทัลที่มีจริยธรรมเป็นพื้นฐานได้"

การใช้งาน AI ได้พลิกโฉมชีวิตผู้คนอย่างมาก ทั้งยังกระตุ้นให้เกิดนวัตกรรม และเพิ่มประสิทธิภาพได้อย่างมีนัยสำคัญ Puklao Sithithavorn รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ UniNet กล่าวว่า "AI ไม่ได้เป็นเพียงแค่อัลกอริทึม แต่เป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดผลกระทบ และไม่ใช่แค่เรื่องของเทคโนโลยีเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของผู้คนอีกด้วย ประเทศไทยกำลังใช้ AI เพื่อช่วยให้ใช้ชีวิตได้อย่างชาญฉลาดขึ้น ยุติธรรมขึ้น และเชื่อมโยงกันมากขึ้น ตั้งแต่ห้องเรียนไปจนถึงชุมชน เราเชื่อว่า AI ควรเป็นสิ่งที่เข้าถึงได้ มีจริยธรรม และสร้างขึ้นเพื่อทุกคน ไม่ใช่แค่ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี และเมื่อเราร่วมมือกับพันธมิตรที่เหมาะสมแล้ว เราจะไม่ใช่แค่พูดถึงอนาคตเท่านั้น แต่เรากำลังสร้างมันขึ้นมา"

Hong-Eng Koh หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ระดับโลกประจำกลุ่มอุตสาหกรรมบริการภาครัฐของ Huawei ได้กล่าวสรุปการเสวนาว่า "อย่างที่ผู้เชี่ยวชาญของเรากล่าวไปแล้วว่า อธิปไตยด้าน AI ในเอเชียแปซิฟิกกำลังเร่งการเปลี่ยนผ่านของภาคส่วนการศึกษาและการวิจัยไปสู่ระบบอัจฉริยะ ตั้งแต่การสอนความรู้ไปสู่การฝึกสอนและพัฒนาขีดความสามารถ จากการสอนแบบเดียวกันไปสู่การเรียนรู้เฉพาะบุคคล และจากการวิจัยเชิงเส้นตามสมมติฐานไปสู่การวิจัยข้ามสาขาที่ใช้งาน AI ซึ่งเรายังเห็นพ้องต้องกันถึงปัจจัยสำคัญต่างๆ ที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในการนำ AI มาใช้ โดยเฉพาะอย่างในด้านการฝึกอบรมด้านดิจิทัลและ AI สำหรับทุกคน"

Dilan Huang รองประธานฝ่ายขายองค์กรภาครัฐและเอกชนของ Huawei APAC ได้กล่าวแสดงความขอบคุณในงานเลี้ยงกาล่า Huawei Intelligent Education Forum ว่า "ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Huawei Asia Pacific ได้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในภาคส่วนการศึกษาผ่านความไว้วางใจจากลูกค้า และการสนับสนุนจากพันธมิตรของเรา ซึ่งเราได้ร่วมกันสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง โดย Huawei จะยังคงสร้างสรรค์โซลูชัน และผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมและสามารถแข่งขันได้ต่อไป โดยมุ่งมั่นที่จะส่งมอบคุณค่าที่มากขึ้นให้กับลูกค้าของเราเสมอ"

ในปัจจุบัน เราได้ให้บริการลูกค้าในภาคการศึกษาไปแล้วกว่า 7,800 ราย ในกว่า 120 ประเทศและภูมิภาค อีกทั้ง Huawei จะยังคงนำเทคโนโลยี ICT มาประยุกต์ใช้ในภาคการศึกษาอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างบุคลากรด้าน ICT ลดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัล และขับเคลื่อนความเท่าเทียมทางการศึกษาต่อไป