สิงคโปร์, 2 ต.ค. 2568 /PRNewswire/ -- UOB Asset Management (UOBAM) ได้เปิดเผยกลยุทธ์การลงทุนรายไตรมาสประจำไตรมาสที่ 4 ปี 2568 โดยระบุว่าเสถียรภาพที่ตลาดโลกแสดงให้เห็นจนถึงขณะนี้อาจเผชิญบททดสอบในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เนื่องจากภาษีศุลกากรเริ่มส่งผลกระทบหนักขึ้นต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ

รายงานระบุว่าตลาดโลกระยะถัดไปจะขึ้นอยู่กับการตอบสนองของผู้บริโภคต่อราคาที่สูงขึ้น ความแข็งแกร่งของกำไรองค์กรและโมเมนตัมการเติบโตที่ยั่งยืนท่ามกลางแรงกดดันด้านนโยบายส่งผลให้ UOBAM ปรับค่าความน่าจะเป็นเชิงบวกในขาขึ้น โดยปัจจุบัน UOBAM มองว่ามีโอกาส 50% ที่จะเติบโตต่อเนื่อง เทียบกับ 40% ในไตรมาสที่แล้ว อย่างไรก็ตาม UOBAM ยังคงมองว่ามีโอกาส 25% ที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย และมีโอกาส 25% ที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจชะงักงันและเงินเฟ้อ (Stagflation)

ดังนั้นกลยุทธ์ไตรมาสที่สี่ ของ UOBAM คือการคงน้ำหนักการลงทุนเท่าเดิมระหว่างหุ้นกับตราสารหนี้ โดย Anthony Raza หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินทรัพย์หลากหลายของ UOBAM อธิบายว่า การคงน้ำหนักการลงทุนเป็นการดำเนินการเชิงกลยุทธ์ ไม่ใช่การสะท้อนการขาดความเชื่อมั่น เขากล่าวว่า "เมื่อพิจารณาความน่าจะเป็นที่เท่ากันระหว่างสถานการณ์ที่เป็นบวกกับสถานการณ์ที่เป็นลบ เราเชื่อว่าการคงน้ำหนักการลงทุนที่กระจายความเสี่ยงเป็นวิธีการที่ยืดหยุ่นที่สุด และมีโอกาสสูงสุดที่จะสร้างผลตอบแทนบวกในหลากหลายผลลัพธ์"

ในตลาดหุ้น UOBAM มองว่าเอเชียเป็นตลาดที่ค่อนข้างสดใส ด้วยแรงหนุนจากค่าเงินที่แข็งค่า การประเมินค่าที่น่าสนใจ และอุปสงค์ภายในประเทศที่ขยายตัว คาดว่ายุโรปกำลังแสดงสัญญาณการฟื้นตัวหลังจากซบเซามาสองปี ขณะเดียวกัน บริษัทยังคงมุมมองสมดุลสำหรับสหรัฐอเมริกา โดยระบุว่าต้นทุนภาษีศุลกากรเริ่มส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพกว้าง

ในส่วนของตราสารหนี้ นักวิเคราะห์ของ UOBAM เชื่อว่าเศรษฐกิจตลาดพัฒนาแล้วจะยังคงมีความยืดหยุ่น แต่ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อกำลังเพิ่มสูงขึ้น ด้วยเหตุนี้ นักวิเคราะห์จึงคงจุดยืนเป็นกลางด้านอายุเฉลี่ยและเครดิต และคาดการณ์ว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีจะเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 4.0% ถึง 4.5%

หากต้องการข้อมูลเชิงลึกยิ่งขึ้นเกี่ยวกับหุ้น ตราสารหนี้ สกุลเงิน และสินค้าโภคภัณฑ์ โปรดอ่านกลยุทธ์การลงทุนไตรมาส 4 ปี 2568 ฉบับเต็ม: https://www.uobam.com.sg/insights/qis4q25.page

เกี่ยวกับ UOB Asset Management

UOB Asset Management Ltd (UOBAM) เป็นบริษัทในเครือที่ United Overseas Bank Limited ถือหุ้นทั้งหมด ก่อตั้งขึ้นในปี 2529 มีประสบการณ์เกือบ 40 ปีในการบริหารจัดการโครงการลงทุนรวมและกองทุนตามดุลยพินิจในสิงคโปร์ ทำให้บริษัทเป็นหนึ่งในผู้จัดการกองทรัสต์รายใหญ่ที่สุดด้านสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ โดย ณ วันที่ 31 สิงหาคม  2568 บริษัทบริหารจัดการกองทรัสต์ 64 กองในสิงคโปร์ และร่วมกับบริษัทในเครือดูแลสินทรัพย์ของลูกค้ามูลค่า 3.88 หมื่นล้านดอลลาร์สิงคโปร์

UOBAM มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่สิงคโปร์ และมีสำนักงานสาขาที่แข็งแกร่งทั่วเอเชีย มีสำนักงานธุรกิจและการลงทุนอยู่ในบรูไน อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย ไทย และเวียดนาม เครือข่ายของบริษัทประกอบด้วย UOB Islamic Asset Management Sdn Bhd ในมาเลเซีย การร่วมทุนกับ Ping An Fund Management Company Limited (ประเทศจีน) และพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับพันธมิตรอย่าง Wellington Management Singapore

UOBAM เป็นหนึ่งในบริษัทจัดการสินทรัพย์ที่ได้รับรางวัลมากที่สุดในภูมิภาค ด้วยรางวัลกว่า 360 รางวัล ในปี 2568 บริษัทได้รับการยกย่องให้เป็นบริษัทจัดการสินทรัพย์ที่ดีที่สุด (ระดับภูมิภาค) จาก Asia Asset Management และเคยได้รับรางวัล Best Asset Management House in Asia – 20 Years (บริษัทบริหารสินทรัพย์ยอดเยี่ยมในเอเชีย รอบ 20 ปี) ในปี 2566 นวัตกรรมดิจิทัลของบริษัทยังได้รับรางวัลที่เป็นเกียรติชั้นนำ ได้แก่ รางวัล Best Digital Wealth Management in Asia^[1] (การบริหารความมั่นคังดิจิทัลยอดเยี่ยมในเอเชีย) และรางวัล Best Robo Advisory Initiative^[2] (โครงการริเริ่มบริการวางแผนการลงทุนอัตโนมัติยอดเยี่ยม) ติดต่อกัน 3 ปี ตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นมา

ในฐานะผู้นำด้านการลงทุนอย่างยั่งยืน UOBAM ได้รับรางวัล Best application of ESG in ASEAN^[3] (การประยุกต์ใช้ ESG ยอดเยี่ยม) (2566) และได้รับรางวัลด้านความยั่งยืนมากมายทั้งในอินโดนีเซียและไทย นอกจากนี้ ศักยภาพด้านปัญญาประดิษฐ์ของบริษัทยังได้รับการยกย่องให้เป็น Most Innovative Application of Artificial Intelligence (ASEAN)^[4] (นวัตกรรมการประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์สร้างสรรค์ยอดเยี่ยมในอาเซียน) 2 ปีซ้อนอีกด้วย

ติดต่อกับเรา: LinkedIn | Facebook