รอสักครู่...

  • น.

พีอาร์ นิวส์ไวร์

ไทย พีอาร์ นิวส์ไวร์ x พีอาร์ นิวส์ไวร์

ซิชั่น พีอาร์ นิวส์ไวร์ - จากการประชุมนานาชาติสมาคมอัลไซเมอร์ ประจำปี 2568: สมาคมอัลไซเมอร์เผยแนวทางเวชปฏิบัติฉบับแรกสำหรับการใช้การตรวจตัวบ่งชี้ทางชีวภาพจากเลือด


ชอบข่าวนี้?

ประเด็นสำคัญ

  • ในการประชุม AAIC 2025 สมาคมอัลไซเมอร์ได้เผยแพร่แนวทางเวชปฏิบัติฉบับแรกในชุดแนวทางสำหรับการวินิจฉัย การรักษา และการดูแลผู้ป่วยอัลไซเมอร์และภาวะสมองเสื่อมประเภทอื่น ๆ
  • แนวทางฉบับนี้มุ่งเน้นการใช้การตรวจตัวบ่งชี้ทางชีวภาพจากเลือดโดยแพทย์เฉพาะทาง เพื่อประเมินระดับพยาธิสภาพของโรคอัลไซเมอร์ในผู้ที่มีความบกพร่องทางการรู้คิดของสมอง
  • สมาคมอัลไซเมอร์จัดเตรียมทรัพยากรที่อ้างอิงตามหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เพื่อช่วยให้แพทย์สามารถระบุโรคได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น และมั่นใจว่าผู้ป่วยจะได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมโดยเร็วที่สุด
  • แนวทางฉบับนี้และแนวทางอื่น ๆ ที่อยู่ระหว่างการพัฒนา เป็นส่วนหนึ่งของ ALZPro™ ศูนย์กลางทรัพยากร ข้อมูล และการสนับสนุนของสมาคมอัลไซเมอร์สำหรับบุคลากรด้านภาวะสมองเสื่อม

โทรอนโต, 30 กรกฎาคม 2568 /PRNewswire/ -- ในก้าวสำคัญของการเปลี่ยนแปลงกระบวนการวินิจฉัยโรคอัลไซเมอร์ในการดูแลเฉพาะทาง สมาคมอัลไซเมอร์ (Alzheimer's Association) ได้เผยแพร่แนวทางเวชปฏิบัติ (CPG) ฉบับแรกสำหรับการใช้การตรวจตัวบ่งชี้ทางชีวภาพจากเลือด (BBM) ในวันนี้

แนวทางนี้ถูกเผยแพร่ระหว่างงานประชุมนานาชาติสมาคมอัลไซเมอร์ (Alzheimer's Association International Conference®) ประจำปี 2568 (AAIC® 2025) ที่โทรอนโตและแบบออนไลน์ พร้อมตีพิมพ์ในวารสาร Alzheimer's & Dementia®: The Journal of the Alzheimer's Association

แนวทางดังกล่าวประกอบด้วยคำแนะนำที่ชัดเจนและอ้างอิงหลักฐานเชิงประจักษ์โดยไม่ผูกกับยี่ห้อใด เพื่อสนับสนุนการวินิจฉัยโรคอัลไซเมอร์ให้แม่นยำและเข้าถึงได้มากขึ้นผ่านการตรวจตัวบ่งชี้ทางชีวภาพจากเลือด คำแนะนำเหล่านี้สอดคล้องกับการทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบ โดยใช้กระบวนการที่เข้มงวดและโปร่งใส และจะมีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องตามพัฒนาการของข้อมูลหลักฐานต่อไป

"นี่คือช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านสำคัญในการดูแลผู้ป่วยอัลไซเมอร์" ดร. Maria C. Carrillo หัวหน้าเจ้าหน้าที่วิทยาศาสตร์และหัวหน้าฝ่ายเวชกิจของสมาคมอัลไซเมอร์ และหนึ่งในผู้ร่วมเขียนแนวทาง กล่าว "ถือเป็นครั้งแรกที่เรามีแนวทางเวชปฏิบัติที่อิงหลักฐานอย่างเข้มงวด ซึ่งช่วยให้แพทย์สามารถใช้การตรวจตัวบ่งชี้ทางชีวภาพจากเลือดได้อย่างมั่นใจและสม่ำเสมอ การนำแนวทางนี้ไปใช้จะช่วยให้การวินิจฉัยทำได้รวดเร็ว เข้าถึงง่าย และแม่นยำยิ่งขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีกว่าสำหรับทั้งผู้ป่วยและครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากโรคอัลไซเมอร์"

คำแนะนำในแนวทางเวชปฏิบัติฉบับใหม่ ซึ่งใช้เฉพาะกับผู้ป่วยที่มีภาวะบกพร่องทางการรู้คิดของสมอง และได้รับการดูแลจากคลินิกเฉพาะทางด้านความจำ ประกอบด้วย

  • สามารถใช้การตรวจ BBM ที่มีความไว ≥90% และความจำเพาะ ≥75% เป็นเครื่องมือคัดกรองเบื้องต้น โดยหากผลเป็นลบ จะช่วยตัดความเป็นไปได้ของพยาธิสภาพโรคอัลไซเมอร์ออกได้ในระดับความน่าจะเป็นสูง ในกรณีที่ผลเป็นบวก ควรได้รับการยืนยันด้วยการตรวจวิธีอื่น เช่น การตรวจน้ำไขสันหลัง (CSF) หรือการถ่ายภาพเอกซเรย์พอซิตรอนร่วมกับสารจำเพาะอะไมลอยด์ (amyloid PET)
  • สามารถใช้การตรวจ BBM ที่มีทั้งความไวและความจำเพาะ ≥90% แทนการตรวจ PET หรือการตรวจ CSF เพื่อค้นหาตัวบ่งชี้โรคอัลไซเมอร์ได้

แนวทางนี้เตือนว่า ปัจจุบันมีความแปรปรวนสูงในความแม่นยำของการตรวจวินิจฉัย และการตรวจ BBM เชิงพาณิชย์จำนวนมากยังไม่เป็นไปตามเกณฑ์ขั้นต่ำดังกล่าว

"การตรวจ BBM บางรายการยังไม่ได้รับการรับรองตามมาตรฐานเดียวกัน หรือยังไม่ผ่านการทดสอบอย่างกว้างขวางในกลุ่มผู้ป่วยและบริบทคลินิกที่หลากหลาย ทว่าผู้ป่วยและแพทย์อาจเข้าใจผิดว่าการตรวจทั้งหมดสามารถใช้แทนกันได้" ดร. Rebecca M. Edelmayer รองประธานฝ่ายความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ของสมาคมอัลไซเมอร์ และหนึ่งในผู้ร่วมเขียนแนวทาง กล่าว "แนวทางฉบับนี้ช่วยให้แพทย์ใช้เครื่องมือดังกล่าวอย่างมีความรับผิดชอบ หลีกเลี่ยงการใช้เกินความจำเป็นหรือใช้อย่างไม่เหมาะสม ตลอดจนรับรองว่าผู้ป่วยจะสามารถเข้าถึงความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ล่าสุดได้"

เมื่อเทียบกับการตรวจ PET และการตรวจ CSF ซึ่งเป็นมาตรฐานการดูแลในปัจจุบัน การตรวจตัวบ่งชี้จากเลือดมักมีต้นทุนน้อยกว่า เข้าถึงง่ายกว่า และเป็นที่ยอมรับของผู้ป่วยมากกว่า แนวทางย้ำว่า การตรวจ BBM ไม่สามารถทดแทนการประเมินทางคลินิกโดยแพทย์อย่างครอบคลุม และควรได้รับการสั่งและแปลผลโดยบุคลากรทางการแพทย์ ภายใต้บริบทการดูแลรักษาทางคลินิก

นี่เป็นแนวทางแรกในกลุ่มโรคอัลไซเมอร์ที่พัฒนาภายใต้ระเบียบวิธี GRADE (Grading of Recommendations Assessment, Development and Evaluation) ซึ่งรับรองความโปร่งใส มีโครงสร้าง และอิงหลักฐานเชิงประจักษ์ในการประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูลและการจัดทำคำแนะนำ ส่งผลให้แนวทางมีความน่าเชื่อถือและสามารถทำซ้ำได้ พร้อมเชื่อมโยงระหว่างหลักฐานกับข้อเสนอแนะอย่างชัดเจน

กลุ่มเป้าหมายหลักของแนวทางฉบับนี้คือ แพทย์เฉพาะทางที่ทำหน้าที่ประเมินภาวะบกพร่องทางการรู้คิดของสมองในคลินิกเฉพาะทาง โดย "แพทย์เฉพาะทาง" หมายถึงผู้ให้บริการทางการแพทย์ ซึ่งโดยส่วนใหญ่อยู่ในสาขาประสาทวิทยา จิตเวช หรือเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ ที่ดูแลผู้ใหญ่ที่มีภาวะบกพร่องทางการรู้คิดของสมองหรือภาวะสมองเสื่อม นอกจากนี้ ยังครอบคลุมถึงแพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป พยาบาลเวชปฏิบัติ และผู้ช่วยแพทย์ที่ปฏิบัติงานในคลินิกเฉพาะทางด้วย

คณะผู้เชี่ยวชาญ 11 รายซึ่งสมาคมอัลไซเมอร์เชิญมาร่วมจัดทำแนวทางฉบับนี้ ประกอบด้วยแพทย์เฉพาะทางด้านประสาทวิทยา แพทย์เวชศาสตร์ผู้สูงอายุ พยาบาลเวชปฏิบัติ ผู้ช่วยแพทย์ และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ได้ดำเนินการทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบ และจัดทำข้อเสนอแนะเชิงหลักฐานสำหรับการใช้การตรวจตัวบ่งชี้ทางชีวภาพจากเลือด ในบุคคลที่มีภาวะบกพร่องทางการรู้คิดของสมองซึ่งตรวจพบได้จริง (objective cognitive impairment) รวมถึงผู้ที่มีภาวะบกพร่องทางการรู้คิดเล็กน้อย (MCI) หรือภาวะสมองเสื่อม ข้อเสนอแนะขั้นสุดท้ายได้รับการปรับปรุงโดยอิงจากความคิดเห็นสาธารณะและข้อเสนอแนะจากกลุ่มที่ปรึกษาระยะเริ่มต้นระดับชาติของสมาคมฯ (National Early-Stage Advisory Group) ซึ่งประกอบด้วยผู้ที่มีชีวิตอยู่ร่วมกับโรคอัลไซเมอร์ในระยะเริ่มต้น

ในแนวทางฉบับแรกนี้ BBM ที่อยู่ในขอบเขตการพิจารณา ได้แก่ การตรวจ plasma phosphorylated-tau (p-tau) และอะไมลอยด์เบต้า (amyloid-beta หรือ Aβ) โดยวัดจากสารวิเคราะห์ดังต่อไปนี้: p-tau21, อัตราส่วนของ p-tau217 ต่อ non-p-tau217 คูณ 100 (%p-tau217), p-tau181, p-tau231 และอัตราส่วนของ Aβ42 ต่อ Aβ40 การตรวจ BBM เหล่านี้เป็นการวัดความผิดปกติของโปรตีนอะไมลอยด์เบต้าหรือ tau ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ทางชีวภาพหลักสองชนิดที่เกี่ยวข้องกับโรคอัลไซเมอร์ การทบทวนแนวทางอ้างอิงจากงานวิจัยเชิงสังเกตทั้งหมด 49 ฉบับ และประเมินการตรวจ BBM รวมทั้งสิ้น 31 รายการ

คณะผู้เชี่ยวชาญมีมติว่า การรับรองการตรวจที่เฉพาะเจาะจงยังเร็วเกินไป จึงเลือกใช้แนวทางที่ไม่ยึดติดกับแบรนด์ใด โดยเน้นการประเมินตามสมรรถนะของการตรวจแต่ละประเภท โดยปิดบังชื่อการตรวจจากคณะผู้ประเมิน เพื่อหลีกเลี่ยงอคติ แนวทางนี้จึงมีความน่าเชื่อถือ ยืดหยุ่นต่อพัฒนาการในอนาคต และสามารถนำไปใช้จริงได้อย่างเหมาะสม คณะผู้เชี่ยวชาญระบุว่า "การจัดอันดับหรือรับรองการตรวจรายใดรายหนึ่งยังเร็วเกินไปในขณะนี้ แนวทางฉบับนี้จึงมุ่งเสนอข้อมูลด้านความแม่นยำของการตรวจ และการประเมินความแม่นยำนั้น เพื่อใช้เป็นทรัพยากรสำหรับแพทย์ในการพิจารณาว่าควรเลือกใช้การตรวจใด"

คณะผู้เชี่ยวชาญได้จัดทำข้อเสนอแนะสองข้อ และคำแถลงแนวปฏิบัติที่ดี (Good Practice Statement) สำหรับการใช้การตรวจ BBM ในกระบวนการวินิจฉัยผู้ป่วยที่มีภาวะบกพร่องทางการรู้คิดของสมองที่ตรวจพบได้จริง ซึ่งอยู่ในความดูแลเฉพาะทาง

  • ข้อเสนอแนะที่ 1: สำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะบกพร่องทางการรู้คิดที่ตรวจพบได้จริงซึ่งเข้ารับการดูแลในคลินิกเฉพาะทางด้านความจำ คณะผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ใช้การตรวจ BBM ที่มีความไวสูง เป็นเครื่องมือคัดกรองเบื้องต้นในกระบวนการวินิจฉัยโรคอัลไซเมอร์
  • ข้อเสนอแนะที่ 2: สำหรับผู้ป่วยกลุ่มเดียวกัน คณะผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ใช้การตรวจ BBM ที่มีทั้งความไวและความจำเพาะในระดับสูง เป็นเครื่องมือยืนยันในการวินิจฉัยโรคอัลไซเมอร์
  • คำแถลงแนวปฏิบัติที่ดี: ไม่ควรสั่งตรวจ BBM ก่อนมีการประเมินทางคลินิกโดยบุคลากรทางการแพทย์อย่างครอบคลุม และผลการตรวจควรได้รับการแปลผลในบริบททางคลินิกเสมอ คณะผู้เชี่ยวชาญเน้นย้ำให้แพทย์พิจารณาความน่าจะเป็นเบื้องต้นของพยาธิสภาพอัลไซเมอร์ในผู้ป่วยแต่ละราย ก่อนตัดสินใจว่าจะใช้การตรวจ BBM หรือไม่

แนวทางเวชปฏิบัติฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของ ALZPro™ ซึ่งเป็นศูนย์รวมทรัพยากรครบวงจรของสมาคมอัลไซเมอร์ เพื่อส่งเสริมแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ โดยมีเป้าหมายในการสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ทุกสาขาให้สามารถลดความเสี่ยงของโรค ตรวจพบได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น พัฒนาการดูแลรักษา และขยายโอกาสเข้าถึงบริการอย่างเท่าเทียมในทุกชุมชน แพลตฟอร์ม ALZPro รวมเอาทรัพยากรการดูแล ข้อค้นพบทางวิทยาศาสตร์ล่าสุด แนวทางเวชปฏิบัติ ข้อมูลเชิงลึก เครื่องมืออบรมต่อเนื่อง และเครื่องมือสนับสนุนการนำไปใช้จริงไว้ในที่เดียว

แนวทางเวชปฏิบัติที่กำลังจะเผยแพร่ในอนาคต จะครอบคลุมเครื่องมือประเมินสมรรถภาพทางการรู้คิดของสมอง (ฤดูใบไม้ร่วง ปี 2568), การนำเกณฑ์การจัดระยะและการรักษาไปใช้จริงในคลินิก (ปี 2559), การป้องกันโรคอัลไซเมอร์และภาวะสมองเสื่อมประเภทอื่น ๆ (ปี 2570) แนวทางเวชปฏิบัติฉบับปัจจุบันนี้จัดทำและสนับสนุนโดยสมาคมอัลไซเมอร์ แต่อย่างไรก็ตาม สมาคมฯ ไม่ได้มีบทบาทในการกำหนดคำถามทางคลินิกหรือจัดทำข้อเสนอแนะในแนวทางนี้

เกี่ยวกับการประชุมนานาชาติสมาคมอัลไซเมอร์ (AAIC®) การประชุมนานาชาติสมาคมอัลไซเมอร์ (Alzheimer's Association International Conference®) หรือ AAIC® เป็นการรวมตัวครั้งใหญ่ที่สุดของนักวิจัยจากทั่วโลกที่มุ่งเน้นการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับโรคอัลไซเมอร์และภาวะสมองเสื่อมอื่น ๆ ในฐานะส่วนหนึ่งของโครงการวิจัยของสมาคมอัลไซเมอร์ งาน AAIC ทำหน้าที่เป็นแรงผลักดันให้เกิดองค์ความรู้ใหม่เกี่ยวกับภาวะสมองเสื่อม และส่งเสริมชุมชนนักวิจัยให้มีความร่วมมืออย่างมีพลังและแน่นแฟ้น
AAIC 2025: www.alz.org/aaic/ศูนย์ข่าว AAIC 2025: www.alz.org/aaic/pressroom.asp แฮชแท็ก AAIC 2025: #AAIC25

เกี่ยวกับสมาคมอัลไซเมอร์
สมาคมอัลไซเมอร์ (Alzheimer's Association®) เป็นองค์กรสุขภาพระดับโลกที่ดำเนินงานโดยอาสาสมัคร อุทิศตนเพื่อการดูแล สนับสนุน และวิจัยเกี่ยวกับโรคอัลไซเมอร์ ภารกิจของเราคือการนำพาไปสู่จุดสิ้นสุดของโรคอัลไซเมอร์และภาวะสมองเสื่อมทุกประเภท โดยการเร่งส่งเสริมการวิจัยระดับโลก ขับเคลื่อนการลดความเสี่ยงและการตรวจพบแต่เนิ่น ๆ รวมถึงการมอบการดูแลและการสนับสนุนที่มีคุณภาพสูงสุด วิสัยทัศน์ของเราคือโลกที่ปราศจากโรคอัลไซเมอร์และภาวะสมองเสื่อมทั้งปวง (a world without Alzheimer's and all other dementia®) เข้าชมเว็บไซต์ alz.org หรือโทร 800.272.3900

หัวข้อ: แนวทางเวชปฏิบัติทางคลินิกอิงหลักฐาน สำหรับการตรวจหาและวินิจฉัยภาวะบกพร่องทางการรู้คิดของสมองโดยใช้ตัวบ่งชี้ทางชีวภาพจากเลือดและแบบทดสอบสมรรถภาพการรู้คิด: สองแนวทางจากสมาคมโรคอัลไซเมอร์ (Evidence-Based Clinical Practice Guidelines for Detection and Diagnosis of Cognitive Impairment using Blood-based Biomarkers and Cognitive Testing: Two Guideline Initiatives from the Alzheimer's Association)

รหัสบทเสนอ: 108894

การบรรยายนำเสนอ: วันอังคารที่ 29 กรกฎาคม 2568 เวลา 14:00–15:30 น. ตามเวลา EDT (3-21-DEV)

แนวทางเวชปฏิบัติสำหรับการใช้ตัวบ่งชี้ทางชีวภาพจากเลือดในการตรวจวินิจฉัยโรคอัลไซเมอร์ในบริบทการดูแลเฉพาะทาง: รายงานจากสมาคมโรคอัลไซเมอร์

ภูมิหลัง: ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตัวบ่งชี้ทางชีวภาพจากเลือด (BBM) ได้เปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ของการวินิจฉัยโรคอัลไซเมอร์ (AD) อย่างมีนัยสำคัญ โดยบางการทดสอบเริ่มมีความพร้อมต่อการใช้งานทางคลินิกแล้ว ความก้าวหน้านี้สอดรับกับความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของการวินิจฉัยในระยะเริ่มต้นที่แม่นยำ ตลอดจนการเข้าถึงการรักษาด้วยยาต้านอะไมลอยด์เบต้าในผู้ป่วยระยะอาการเริ่มต้น ตอกย้ำความจำเป็นของสมรรถภาพในการตรวจวินิจฉัยแต่เนิ่นที่รวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อรับมือกับความต้องการนี้ สมาคมโรคอัลไซเมอร์จึงได้จัดตั้งคณะผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา รวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อหา และผู้เชี่ยวชาญด้านระเบียบวิธีการจัดทำแนวทางเวชปฏิบัติ เพื่อทบทวนหลักฐานอย่างเป็นระบบและจัดทำข้อแนะนำสำหรับการใช้ BBM ในการประเมินวินิจฉัยผู้ที่มีความบกพร่องทางการรู้คิดของสมองในระดับรอง (MCI) หรือภาวะสมองเสื่อมในสถานพยาบาลระดับทุติยภูมิหรือตติยภูมิ

วิธีการ: คณะผู้จัดทำแนวทางได้ดำเนินการทบทวนอย่างเป็นระบบเพื่อประเมินความแม่นยำในการวินิจฉัยของ BBM สำหรับการตรวจหาพยาธิสภาพอะไมลอยด์ โดยกำหนดเกณฑ์ความแม่นยำเบื้องต้นในการใช้เป็นเครื่องมือคัดกรองเบื้องต้น (ความไว ≥90%, ความจำเพาะ ≥75%) และใช้เป็นเครื่องมือยืนยัน (ความไวและความจำเพาะ ≥90%) BBM ที่อยู่ในการพิจารณาประกอบด้วยการทดสอบ p-tau และอะไมลอยด์เบต้า (Aβ) ในพลาสมา ได้แก่ p-tau217, %p-tau217, p-tau181, p-tau231 และอัตราส่วน Aβ42/Aβ40 โดยเปรียบเทียบกับการตรวจวินิจฉัยที่เป็นวิธีมาตรฐาน เช่น น้ำไขสันหลัง (CSF), PET อะไมลอยด์ หรือการชันสูตรพยาธิสภาพสมอง แนวทางนี้ประยุกต์ใช้กรอบการประเมิน GRADE และกรอบการตัดสินใจอิงหลักฐานของ GRADE ในการจัดทำข้อแนะนำ

ผลลัพธ์: จากการศึกษาภาคสังเกต 49 ฉบับที่เข้าเกณฑ์ ได้มีการประเมินการตรวจ BBM ที่แตกต่างกันถึง 31 รายการ คณะผู้จัดทำได้ประเมินการทดสอบแต่ละรายการภายใต้เกณฑ์ที่กำหนดไว้ล่วงหน้า เพื่อจัดกลุ่มว่า 1) มีความแม่นยำเพียงพอที่จะใช้เป็นเครื่องมือคัดกรองเบื้องต้นโดยยังต้องยืนยันผลด้วย PET หรือ CSF 2) มีความแม่นยำเพียงพอที่จะใช้แทน PET หรือ CSF โดยตรงในฐานะเครื่องมือยืนยันผล หรือ 3) ยังไม่มีความแม่นยำเพียงพอสำหรับการใช้งานในทางคลินิกในขณะนี้ ทั้งนี้ ข้อแนะนำจะระบุเฉพาะกรณีที่การทดสอบ BBM ใด ๆ มีความแม่นยำตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้

ข้อสรุป: BBM มีศักยภาพในการยกระดับการวินิจฉัยโรคอัลไซเมอร์ในระยะเริ่มต้น และขยายการเข้าถึงการรักษาที่เปลี่ยนแปลงโรค แนวทางเวชปฏิบัติที่อิงหลักฐานจึงมีความสำคัญในการวางมาตรฐานการใช้งาน และจะได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติมเมื่อมีข้อมูลหลักฐานใหม่หรือการประยุกต์ใช้ที่พัฒนาขึ้นในอนาคต

โลโก้ - https://mma.prnasia.com/media2/2689936/5436375/Alzheimers_Association_Logo.jpg?p=medium600


ที่มา : ซิชั่น พีอาร์ นิวส์ไวร์ - จากการประชุมนานาชาติสมาคมอัลไซเมอร์ ประจำปี 2568: สมาคมอัลไซเมอร์เผยแนวทางเวชปฏิบัติฉบับแรกสำหรับการใช้การตรวจตัวบ่งชี้ทางชีวภาพจากเลือด https://www.prnasia.com/asia-story/archive/4740021_TH40021_10

ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้จัดทำโดย ซิชั่น พีอาร์ นิวส์ไวร์ ซึ่งเป็นพันธมิตรด้านข่าวของเรา ความคิดเห็นของผู้เขียนและเนื้อหาที่แบ่งปันในหน้านี้ถือเป็นความคิดเห็นของตนเอง และอาจไม่จำเป็นต้องแสดงถึงมุมมองของ ไทย พีอาร์ นิวส์ไวร์

แสดงความคิดเห็น

คำค้นแนะนำ
Link
พื้นที่โฆษณา