ซิชั่น พีอาร์ นิวส์ไวร์ - จีนจัดการประชุมส่งเสริม "วัฒนธรรมหงซาน" อันรุ่งโรจน์
ปักกิ่ง, 16 มิถุนายน 2568 /PRNewswire/ -- รายงานจาก China Daily
The official logo for "Hongshan culture" unveiled at the International Communication Conference on Hongshan Culture and the "Vision China".
มรดกทางวัฒนธรรมเปรียบเสมือนประตูที่เปิดให้ผู้คนได้เข้ามาสัมผัสกับประเพณี วัฒนธรรม และอารยธรรมของประเทศ ด้วยเหตุนี้ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องยกระดับการศึกษาวิจัย เพื่อเพิ่มพูนความเข้าใจในลักษณะเฉพาะของวัฒนธรรมจีน และเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างอารยธรรมจีนกับอารยธรรมต่างประเทศ นี่คือสิ่งที่ผู้เข้าร่วมการประชุมวัฒนธรรมได้กล่าวเอาไว้
เหล่าผู้ทรงคุณวุฒิได้กล่าวสุนทรพจน์ดังกล่าวในการประชุมการสื่อสารระหว่างประเทศว่าด้วยวัฒนธรรมหงซานและวิสัยทัศน์จีน (International Communication Conference on Hongshan Culture and Vision China) ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ณ เมืองเฉาหยาง มณฑลเหลียวหนิง
Wang Xinwei ผู้ว่าการมณฑลเหลียวหนิง กล่าวว่า มณฑลเหลียวหนิงจะดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่ออนุรักษ์ สืบสาน และพัฒนาวัฒนธรรมหงซานให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้มรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่านี้เปล่งประกายเจิดจ้ายิ่งขึ้นในยุคสมัยใหม่
วัฒนธรรมหงซาน ซึ่งเป็นวัฒนธรรมยุคหินใหม่ที่สำคัญเมื่อ 6,500-5,000 ปีก่อน ครอบคลุมพื้นที่มณฑลเหลียวหนิง มณฑลเหอเป่ย และเขตปกครองตนเองมองโกเลียในในปัจจุบัน
"เราจะเพิ่มความมุ่งมั่นที่มีต่อพันธกิจด้านวัฒนธรรมในยุคสมัยใหม่ ด้วยการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับวัฒนธรรมหงซานให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ส่งเสริมการยื่นขอขึ้นทะเบียนมรดกโลกให้กับแหล่งโบราณคดีหนิวเหอเหลียงในเมืองเฉาหยาง มณฑลเหลียวหนิง และเพิ่มพูนความเข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมหงซานในระดับนานาชาติ" เขากล่าว
สำหรับการประชุมในหัวข้อ "ย้อนรอยต้นกำเนิดอารยธรรมจีน: วัฒนธรรมหงซาน" ได้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณคดีศึกษา การอนุรักษ์โบราณวัตถุ การวิจัยอารยธรรม และอีกหลายสาขาวิชา เพื่อแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับวัฒนธรรมหงซาน
Qu Yingpu บรรณาธิการบริหารของ China Daily กล่าวว่า "ลุ่มแม่น้ำเหลียวเหอตะวันตก กับลุ่มแม่น้ำเหลืองและแม่น้ำแยงซี ถือเป็นแหล่งกำเนิดอารยธรรมจีนที่สำคัญแห่งหนึ่ง โดยมีวัฒนธรรมหงซานเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมจีนอันรุ่งโรจน์ในยุคแรก ๆ"
Qu กล่าวเสริมว่า "เราต้องสร้างระบบสัญลักษณ์วัฒนธรรมจีนให้เป็นที่รู้จัก เพื่อช่วยให้โลกเข้าใจจีนและจิตวิญญาณของชาวจีนมากขึ้น" พร้อมกับระบุว่าควรใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวในอดีตอย่างสมจริงและมีชีวิตชีวา
Bao Xianhua หัวหน้าสำนักประชาสัมพันธ์ของคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำเขตปกครองตนเองมองโกเลียในของจีน ได้เน้นย้ำถึงความร่วมมือระหว่างมณฑลเหลียวหนิงกับมองโกเลียใน เพื่อทำความเข้าใจวัฒนธรรมหงซานให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
เขากล่าวว่า มองโกเลียในจะเดินหน้ากระชับความร่วมมือกับทั้งมณฑลเหลียวหนิงและมณฑลเหอเป่ย รวมทั้งสำรวจคุณค่าอันหลากหลายของวัฒนธรรมหงซาน ตลอดจนส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงที่สร้างสรรค์และการพัฒนาวัฒนธรรมจีนดั้งเดิมด้วยนวัตกรรมล้ำสมัย
Qiao Yunfei รองผู้อำนวยการสำนักบริหารมรดกทางวัฒนธรรมแห่งชาติ ได้เรียกร้องให้ทุกฝ่ายพยายามอย่างไม่ลดละเพื่อสำรวจบทบาทสำคัญของวัฒนธรรมหงซานในการให้กำเนิดและการพัฒนาอารยธรรมจีน พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง และแหล่งโบราณคดีที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนสร้างวัฒนธรรมหงซานให้กลายเป็นสัญลักษณ์ของอารยธรรมจีนที่มีอิทธิพลในระดับโลก
เปิดตัวโลโก้
ในระหว่างการประชุมได้มีการเปิดตัวโลโก้อย่างเป็นทางการของวัฒนธรรมหงซาน โดยชูเอกลักษณ์ของเครื่องปั้นดินเผาลงสีแบบหงซาน ด้วยลวดลายอักษร "C" สองตัวประสานกัน โดย "C" ตัวหนึ่งแทนคำว่า "China" และอีกตัวแทนคำว่า "Culture" เพื่อสร้างเกลียวก้นหอยที่เป็นสัญลักษณ์ของมรดกทางวัฒนธรรมหงซาน หนึ่งในต้นกำเนิดอารยธรรมจีน
Guo Dashun ผู้อำนวยการกิตติมศักดิ์ของสถาบันโบราณวัตถุและโบราณคดีแห่งมณฑลเหลียวหนิง ได้เน้นย้ำถึงความเชื่อมโยงระหว่างวัฒนธรรมหงซานกับวัฒนธรรมอื่นนอกแผ่นดินจีน โดยกล่าวว่า เครื่องปั้นดินเผาลงสีของหงซานมีลวดลายสามแบบ ได้แก่ ลวดลายดอกกุหลาบจากที่ราบภาคกลางของจีน ลวดลายมังกรพื้นเมืองของหงซาน และลวดลายเรขาคณิต เช่น ลายตาข่ายข้าวหลามตัด ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากเอเชียกลาง
"การออกแบบลวดลายเหล่านี้สะท้อนถึงการผสมผสานวัฒนธรรมต่าง ๆ ในยูเรเชีย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเมื่อประมาณ 5,000 หรือ 6,000 ปีก่อน มีถนนเครื่องปั้นดินเผาที่ทอดยาวจากใต้จรดเหนือ จากตะวันตกจรดตะวันออก โดยมีลุ่มแม่น้ำเหลียวเหอตะวันตกเป็นแหล่งหลอมรวมวัฒนธรรมเอเชียตะวันตกและเอเชียตะวันออกเข้าด้วยกัน" Guo กล่าวจากประสบการณ์การศึกษาวัฒนธรรมหงซานมานานหลายทศวรรษ
Elizabeth Childs-Johnson นักจีนวิทยาชาวอเมริกันที่เชี่ยวชาญด้านศิลปะและโบราณคดีจีน ได้ระบุจุดเด่นของวัฒนธรรมหงซาน พร้อมกับชี้ให้เห็นว่าหงซานเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมแรก ๆ ที่ใช้หยกเป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจและความมั่งคั่ง
Jiang Bo ศาสตราจารย์จากสถาบันมรดกทางวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยซานตง และอดีตรองประธานสภาอนุสรณ์สถานและโบราณสถานระหว่างประเทศ กล่าวว่า วัฒนธรรมหงซานซึ่งประกอบด้วยโครงสร้างหินในแหล่งโบราณคดี มังกรหยกซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมจีนโบราณ รวมถึงรูปปั้นและประติมากรรมที่สะท้อนถึงระบบความเชื่อในยุคแรก ๆ มีศักยภาพที่จะได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
Dennis Schilling ศาสตราจารย์ด้านปรัชญาจากมหาวิทยาลัยเหรินหมินแห่งประเทศจีนในกรุงปักกิ่ง กล่าวว่า วัฒนธรรมหงซานเป็นส่วนสำคัญของ "มรดกโลกของมวลมนุษยชาติ"
"วัฒนธรรมหงซานไม่เพียงมีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์วัฒนธรรมจีนในยุคหลังเท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญสำหรับความเข้าใจของเราที่มีต่อพัฒนาการทางสังคมและวัฒนธรรมของมนุษยชาติอีกด้วย" เขากล่าว